.comment-link {margin-left:.6em;}

Noi's life & thoughts

Tuesday, October 26, 2004

ขออโหสิกรรม

กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมใดก็ดี ที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่าน ทั้งต่อหน้าก็ดี ทั้งลับหลังก็ดี จะโดยเจตนาก็ดี โดยไม่เจตนาก็ดี ข้าพเจ้าขอให้ท่านจงโปรดอดโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย

หากมีสิ่งใด บุคคลใดที่ข้าพเจ้าเคยเพ่งโทษ โกรธเคือง เคียดแค้น ผูกใจเจ็บไว้ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้และขอเป็นผู้ไม่ผูกเวรไม่จองเวรกันต่อไป

====
มาขออโหสิกรรม และมาให้อโหสิกรรม เพราะเมื่อคืนฝันว่ากำลังจะตาย โดยที่ไม่ทันได้บอกลาใคร -_-" เศร้านะ ในฝันเห็นว่าคุณพ่อกำลังจะเดินทางมา แต่ไม่ทัน เราไม่ได้บอกรักท่านเลย ข้างกายเราก็ไม่มีใครสักคน ไม่ได้ลาใครสักคน ...

พอตื่นมา หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็เลยเดินไปกราบคุณพ่อที่ตัก (ท่านกำลังนั่งทำงานอยู่หลังบ้าน) เล่าความฝันให้ท่านฟัง กอดท่าน บอกท่านว่าเรารักท่าน และจูบที่มือ จากนั้นก็ออกมาทำแบบเดียวกันกับคุณแม่บ้าง

ตอนนี้สบายใจหล่ะ ... ถ้าต้องตายลงตอนนี้จริงๆ ก็คงไม่เหลืออะไรค้างคาใจมากเหมือนเมื่อก่อน ยังคงเหลือแต่เร่งทำพระนิพพานให้แจ้ง (อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้) :)

3 Comments:

At Wednesday, October 27, 2004 7:29:00 PM, Blogger Beamer User said...

อาจจะรู้จักแล้วนะครับ เอามาฝากไว้แล้วกัน
http://santidharma.com/

 
At Sunday, October 31, 2004 11:32:00 AM, Blogger /s/u/n/ said...

อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณหน่อยถึงอยากพบนิพพานครับ คือผมคิดว่าแต่ละคนคงมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป ผมเคยสงสัยว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบคืออะไรกันแน่ หมายถึงการตรัสรู้ ไม่ใช่แค่อริยะสัจจสี่ หรือนิพพานเป็นสภาวะของสสารอีกสภาวะหนึ่ง เคยสนใจอยู่ช่วงหนึ่ง ช่วงที่เสียพี่ชายแล้วคิดว่าชีวิตนี้ช่างไม่แน่นอน วันนี้เจอ พรุ่งนี้จาก แล้วชีวิตมีความหมายในการมีอยู่หรือดำรงอยู่ หรือเปล่า หรือเป็นแค่การเคลื่อนไหวไปกับกาลเวลา

แวะมาอ่าน blog ของคุณได้ข้อคิด ได้ทัศนะคติดี ๆ หลายอย่าง ขอบคุณครับ

สันติ

 
At Sunday, October 31, 2004 12:20:00 PM, Blogger NOI said...

อืม มันเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งหน่ะครับ ... ผมเฝ้าถามตัวเองบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กๆ ว่า เราเกิดมาทำไม เราเกิดมาเพื่ออะไร ตอนนั้นคุณพ่อผมมักจะพูดถึงพระนิพพานให้ฟังบ่อยๆ ประกอบกับเมื่อผมได้บวช ได้ศึกษาพระไตรปิฎก และเข้าใจว่า จุดหมายปลายทางของดวงจิตทุกดวงคือพระนิพพาน ต่างกันเพียงแต่ว่า เราจะใช้เวลานานแค่ไหนในการไปให้ถึง และระหว่างทางนั้นเราทำอะไรลงไปบ้าง สิ่งต่างๆ ที่เราทำไปในระหว่างทางนี้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุน ส่งเสริม หรือเป็นอุปสรรคขัดขวางการไปถึงพระนิพพานของเราได้ทั้งสิ้น ...

อย่างไรก็ดี พระธรรมไม่ใช่สิ่งที่เราจะเรียนรู้ได้ด้วยการท่องจำ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และกลายเป็นธรรมชาติประจำตัวของเราต่างหากครับ :)

ดีใจที่คุณสันติแวะมา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน :) ที่จริงผมก็เป็นคนขอบเฮฮา บ้าๆ บอๆ แต่อยากจะไปให้ถึงพระนิพพานโดยเร็ว เพราะผมกลัวความไม่แน่นอนระหว่างทางที่เรายังไปไม่ถึงหน่ะครับ ... ขอให้คุณเจริญในธรรมครับ :D สาธุ

 

Post a Comment

<< Home