.comment-link {margin-left:.6em;}

Noi's life & thoughts

Sunday, July 03, 2005

ซุ่มซ่าม

ลูกค้าบ่น แนะนำ ให้ความเห็นว่า ท้ายๆ ร้านมีแสงสว่างไม่พอ บ่นกันมานานแล้ว แก้ปัญหาไปบางอย่างแล้ว แต่แสงก็ยังไม่พออยู่ดี (เอาฟิวเจอร์บอร์ดออก เพื่อเปิดให้แสงเข้าทางอิฐแก้วด้านหลังลูกค้า)

เมื่อวานตัดสินใจซื้อไฟหลอดยาวแบบประหยัดพลังงาน ชนิดมีอุปกรณ์มาให้ครบชุด มาใช้ที่ร้าน (ที่จริงมันเป็นชุดสำหรับใส่สังฆทานนะ มีคำถวายสังฆทานพร้อมที่ข้างกล่องเลย) แต่พอเปิดกล่องออกมา ปรากฏว่ามันไม่มีปลั๊กมาให้ มีแต่สายไฟโผล่ออกมาน้อยๆ กับมีลูกเต๋าต่อสายให้หนึ่งอัน

เช้านี้กลับบ้าน ไปไถสายไฟ ปลั๊กตัวผู้ และสวิทช์เปิดปิดไฟจากคุณพ่อหนึ่งชุด พร้อมกับขอยืมสว่านมาด้วย (พักนี้ไถของจากคุณพ่อบ่อยแฮะ อาทิตย์ก่อนก็พึ่งไปตบชั้นเหล็กฉากมาอันนึง แต่เอาชั้นเหล็กฉากของที่ร้านไปแลก) :P

ช่วงบ่าย ฝนทำท่าจะตก ฟ้ามืดครื้มทมึนอยู่นาน ลูกค้าทยอยออกจนเหลือคนเดียว เลยคิดว่า เอาวะ ติดตั้งหลอดไฟเลยละกัน เอารางหลอดไฟมาวัด เอาระดับน้ำมาจับ เอาดินสอทำตำหนิบริเวณที่จะเจาะ แล้วก็ลุย .. ทำยังไม่เสร็จดี ลูกค้าคนสุดท้ายก็เลิกใช้งานออกจากร้านไป

เหลือเพียงตัวเรากับเจ้าหลอดไฟ เลยเร่งทำเป็นการใหญ่ จนงานลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย ทีนี้ไอ้ตอนที่จะลงจากโต๊ะ ก็ก้าวขาขวาลงมาเหยียบเก้าอี้ แล้วยกขาซ้ายตามลงมา ปรากฏว่าขากางเกงยีนส์ข้างซ้ายดันไปติดกับมุมพนักพิงเก้าอี้ตัวนั้น ทำอะไรไม่ถูกเลย ยกขาซ้ายขึ้นก็ติดแง่ง จะเอาขาซ้ายลงก็ติด มันเลยคาๆ อยู่กลางอากาศ ยงโย่ยงหยกอยู่แป๊บนึงเก้าอี้ก็ล้มลงฟาดกับพื้นกระเบื้อง เสียงดังสนั่น แต่เราไม่เป็นอะไร สามารถลงมาได้อย่างสวยงาม (น่าจะได้แต้มเฉลี่ยจากกรรมการ ๘.๗ ขึ้นไปนะ) ที่ลงมาได้อย่างสวยงามเพราะพยายามมีสติอยู่ตลอด

นั่นเป็นความซวยแรกที่เข้ามา หลังจากที่สังหรณ์ใจอยู่เหมือนกันว่าตอนเช้า ตื่นมาปุ๊บ ตาขวาเขม่น อาบน้ำ ตาขวาเขม่น กินข้าวตาขวาเขม่น แต่ไม่นึกว่าจะเกิดอุบัติเหตุไง

ใจหายใจคว่ำอยู่แป๊บนึง ก็เดินเอาเครื่องมือมาเก็บลงกล่อง จังหวะย่อตัวลงนั่งแขนขวาก็ไปฟาดถูกพนักพิงเก้าอี้เต็มๆ หนึ่งที นี่ก็เสียงดังสนั่นลั่นร้านอีกเหมือนกัน แต่เป็นเสียงร้องของเราเอง (ดีที่ไมมีลูกค้าอยู่ ไม่งั้นคงอายโคตรๆ)

ซวยไปสองคิดว่าโชคร้ายคงหมดไปแล้ว ทำงานเสร็จแล้วก็ออกไปล้างมือ เดินผ่านรั้วเหล็กอันเตี้ย ที่เคยมีหมาวิ่งมาชนแล้วติดแหง่กอยู่คราวก่อน ตัวเราเองเสือกก้าวขาไม่ข้าม ขาขวาเข้าไปติดในลูกกรง เท่านั้นไม่พอ จังหวะยกขาซ้ายโดยหวังว่าจะให้มันข้ามไปก่อน แล้วค่อยยกขาขวาออกมาจากรั้วอันนั้น แต่แทนที่มันจะเป็นอย่างจินตนาการ เราก็ดันเอาขาซ้ายเข้าไปติดช่องข้างๆ อีกขานึงด้วย ก็เลยคมำหัวเสียบไปข้างหน้า โชคดีที่ทรงตัวทัน เอาขาออกจากลูกกรงแล้วเชิดหน้าเดินตรงต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (งานนี้มีอายเล็กน้อย เพราะมีพยานในเหตุการณ์สองคน) -_-"

เสร็จเรื่องสิ้นราว ทำตัวซุ่มซ่ามสามเหตุการณ์ซ้อนๆ กัน ตอนเย็นๆ เริ่มมีลูกค้ามาใช้บริการ เราก็เอาป้ายเวลาไปตั้ง พอลูกค้าใช้งานเสร็จก็เอาป้ายมาเก็บตามปกติ ป้ายที่ว่าก็เป็นกล่องพลาสติกสีฟ้า ของแป๊ปซี่ ที่มีหมายเลขวางไว้ตามโต๊ะอาหารน่ะ แต่ว่าวันนี้ไม่รู้จะโง่อะไรหนักหนา เดินไปเต้นไป (แบบว่ายังไม่หายซ่า) กล่องป้ายก็ไปเกี่ยวกระเป๋ากางเกงยีนส์ เลยหลุดมือตกลงกระทบพื้น พลาสติกกรอบๆ แข็งๆ กลวงๆ ตกลงกระทบพื้นกระเบื้อง และกระดอนไปมาหลายตลบ เสียงมันก็ดังนะสิ ลูกค้ากำลังใช้งานอยู่สามคนตกใจหมดเลย ต้องรีบขอโทษเป็นการใหญ่ ...

เล่าความซุ่มซ่ามของตัวเองวันนี้ให้แฟนฟัง แฟนก็แซวว่า

"แหมๆ รีบบอกว่าซุ่มซ่ามใหญ่เลยนะ จะบอกว่าตัวเองหล่อละสิ"
"อ้าวทำไมอะ?"
"ก็คนหล่อซุ่มซ่ามไง"

เอาวะจบแบบ Happy Ending และ ผมหล่อครับ :D

0 Comments:

Post a Comment

<< Home