.comment-link {margin-left:.6em;}

Noi's life & thoughts

Monday, June 06, 2005

เสียหมา

เมื่อวานตอนเช้ามาก (เวลาก่อน ๑๐ นาฬิกา สำหรับข้าพเจ้าแล้ว นับว่าเช้ามากจริงๆ นะ) ข้าพเจ้าเดินออกไปนอกร้านเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ ก็เห็นสุนัขพุดเดิ้ลตัวหนึ่งขนขาวปุย ขาสั้นๆ หน้ากลมๆ หน้าตาจิ้มลิ้มสมกับชาติตระกูลของมันตัวหนึ่ง ยืนอยู่ลึกเข้าไปแถวๆ ประตูห้องน้ำ (สงสัยจะแอบเข้าไปขโมยข้าวแมวกิน) เมื่อมันได้ยินเสียงข้าพเจ้าเดิน และหันมาเห็นข้าพเจ้าแล้ว มันก็แสดงอาการตกใจ แล้ววิ่งกระโดดกึ่งกระโจนสวนออกมาตามทางเดินนั้น

ที่นี้ปรากฏว่า ระหว่างทางเดินนั้นมีรั้วเหล็กเตี้ยๆ ทาสีเทาเงิน สูงประมาณเข่าของข้าพเจ้า และเป็นแบบเคลื่อนย้ายได้ (หนักพอประมาณเหมือนกันนะนั่น) ซึ่งเป็นรั้วเหล็กที่พี่ลูกเจ้าของตึกนำมาวางไว้สำหรับกั้นรถ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเครื่องกั้นขวางทางหนีของเจ้าหมาตัวนั้นอยู่ เจ้าหมาคงกะกำลังตัวและช่วงขาของมันแล้วว่า กระโดดไม่พ้นแน่ มันจึงพุ่งตัวคะเนว่าคงผ่านซี่ลูกกรงของรัั้วเหล็กนั้นออกมาได้ แต่อนิจจา มันคงลืมคิดว่าพุงมันใหญ่กว่าช่องว่างของลูกกรง มันจึงรอดออกมาได้แค่หัว และขาหน้าสั้นๆ สองข้าง

อย่างไรก็ดี อาจจะด้วยความตื่นตระหนกตกใจ มันจึงกึ่งวิ่งกึ่งกระโจนแบบขาหน้าลอยๆ ตะกุยอากาศ ขาหลังถีบพื้นกระแด่วๆ ลากลูกกรงที่มีน้ำหนักมากพอประมาณอันนั้นออกไปเป็นระยะทางไกลพอสมควร ก่อนที่จะไปติดอยู่ตรงมุมตึกในสภาพหลังชนฝา และตัวมันก็ติดอยู่ระหว่างลูกกรงกับผนังตึก จะถอยก็ไม่ได้ จะไปข้างหน้าก็ไม่ได้ เพราะลูกกรงหนัก แล้วเป็นช่วงที่ถนนยกระดับขึ้นมานิดหนึ่ง จึงต้องติดอยู่ตรงนั้น

ข้าพเจ้าทั้งขำ ทั้งสงสาร จึงเดินไปจับลูกกรงอันนั้นแล้วยกออกมาข้างหน้าให้เจ้าพุดเดิ้ลถีบตัวออกจากลูกกรง แล้ววิ่งหนึข้ามถนนไปอย่างไม่คิดชีวิต (เป็นโชคดีของมัน ที่ขณะนั้นไม่มีรถยนต์แล่นมาเสยมันซะก่อน)

เมื่อเจ้าหมาหน้าตื่นวิ่งข้ามไปอยู่อีกฝั่งอย่างปลอดภัยแล้ว มันก็หันหน้ามาทางข้าพเจ้า ราวกับจะบอกว่า "อย่าไปเล่าให้ใครฟังนะ ... เค้าอาย" แต่มันคงไม่รู้หรอกว่า ข้าพเจ้าเที่ยวเล่าให้ใครต่อใครฟังทั้งวัน และมีพี่ลูกค้าคนหนึ่งบอกว่า ... นี่แหละคือ อาการเสียหมา :D

0 Comments:

Post a Comment

<< Home