จงอยู่เพื่อ
ระยะนี้ได้ข่าวคนฆ่าตัวตายบ่อยขึ้น ล่าสุดเมื่อวานนี้อ่านข่าวที่ manager.co.th ก็มีคนโหม่งโลกอีกหนึ่งคน
ช่วงเย็นวานอินเตอร์เน็ตมีปัญหา ก็เลยปิดร้านดูหนัง และคุยกับน้องเม้ง ที่เคยเปิดร้านเกมส์อยู่ละแวกเดียวกันมาก่อน แต่ตอนนี้น้องเขาไปขายประกันชีวิต พอดูหนังเรื่อง Swing Girls จบ (คุณแม็คให้ยืมมาเมื่อวันก่อน) ก็เลยอยากไปซื้อมาเก็บ เลยบอกน้องว่าเราจะไปห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ที่เพิ่งมีคนโดดตึกลงมาตาย น้องเขาก็ตกใจว่าเฮ้ยจริงเหรอพี่ ก็เลยคุยกันเรื่องความคิดฆ่าตัวตาย
เราถามน้องเม้งว่าเคยคิดฆ่าตัวตายบ้างไหม น้องบอกว่า ก็เคยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่คิดแบบจริงจัง เป็นการคิดเชิงประชดมากกว่า แล้วน้องก็ถามกลับว่าเราล่ะเคยคิดไหม เราก็ยอมรับว่าเคยเหมือนกัน และมักจะเป็นตอนที่รู้สึกว่าตัวเรานั้นไม่มีคุณค่าอะไร ไร้ค่า ทำประโยชน์อะไรให้คนรอบข้างหรือสังคมไม่ได้แล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร แต่หลังจากที่เราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น ก็ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายอีก เพราะเราเข้าใจแล้วว่า ทุกการกระทำของเรามีผลกระทบต่อบางสิ่งบางอย่างเสมอ ซึ่งมันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้บางสิ่งนั้นดีขึ้นก็ได้
แล้วก็ยกตัวอย่างสมัยที่เราไปสอบเข้าเรียนชั้น ม.๔ รอบสอง ที่โรงเรียนวัดราชบพิธ และตกสัมภาษณ์ เพราะเจออาจารย์ที่ถามคำถามยากๆ จนเราหมดความมั่นใจ คิดว่าตกสัมภาษณ์แน่ๆ เลยไม่ไปสอบข้อเขียน แต่ไปสอบเข้าโรงเรียนวัดสระเกศแทน
จากการที่ตกสัมภาษณ์ที่โรงเรียนวัดราชบพิธนั่นเอง เมื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดสระเกศได้แล้ว ทำให้เราเปลี่ยนกลายเป็นอีกคนหนึ่ง ตั้งใจเรียนมากขึ้น ใส่ใจกับการเรียนมากขึ้น และสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ในที่สุด
บางทีเราอาจจะมีความสำคัญกับบางเหตุการณ์ เพียงแต่ว่าเวลาที่เราจะได้ทำประโยชน์นั้นยังมาไม่ถึง หากเราชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำประโยชน์ให้กับใครอีกต่อไป
เราอาจจะเป็นผู้จุดประกายความคิด ความหวัง ความมุ่งมั่นให้กับใครบางคนที่รอเราอยู่ในอนาคต เราอาจจะเป็นผู้ให้กำเนิดอัจฉริยะบุคคลของโลก ผู้ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีขึ้น หรือเป็นผู้เปลี่ยนวิถีชีวิต ความคิดของผู้หลงผิดให้กลับเข้ามาสู่ครรลองที่ถูกต้อง
ขอเพียงให้เราจงมีชีวิตอยู่ อยู่เพื่อเรียนรู้ชีวิต และเพื่อทำประโยชน์ให้กับบางสิ่งที่กำลังรอเราอยู่ในอนาคต และใส่เจตนาดีเข้าไปในทุกๆ การกระทำของเรา เพราะการกระทำเล็กๆ ของเรา อาจเป็นจุดเปลี่ยนให้กับบางสิ่งดีๆ ที่ยิ่งใหญ่ต่อไป
9 Comments:
เหมือนกัน ตอนเรียน มีอยู่ช่วงนึงอยากตายมาก
เรียนก็แย่ เกรดก็จะโดนไทน์
เพื่อนกินเหล้าก็ไม่มี
แฟนก็ไม่มี อยู่ตัวคนเดียว
เศร้า
ไม่รู้ว่า ยังไม่ถึงฆาตมั้ง
เจอคนขายน้ำเต้าหู้ เลย
กลับมาตั้งใจเรียน
ตอนนั้นไม่ได้นอน เล่นเกมส์ถึง 6 โมงเช้า
ไปซื้อน้ำเต้าหูหลังมอ
คนขายใส่เสื้อขาดแต่ปะแล้ว แล้วก็สะอาด
กำลังเตรียมตั้งร้าน ตั้งกระทะเตรียมทอดปาท่องโก๋
แกถามว่า อ่านหนังสือจนดึกเหรอ
ดีนะ ที่ได้เรียน
แล้วแกก็ทอดต่อ
แบบ อารมณ์นั้น มัน คิดได้เลย
หลังจากนั้น หาร้านแกไม่มีแล้ว
ผมก็คิดแบบนี้เหมือนกันครับ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่อาจจะดูไม่ดี แต่จริงๆ เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ แล้วหันมองกลับมา หากสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นในวันนั้น สิงที่เป็นอยู่วันนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีแบบนี้ก็ได้
ลองอ่านเรื่องราวของ Steve Jobs ดูครับ (ผมเชื่อเรื่องนี้ก่อนอ่านอีกนะ) :D
http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=4108
เรื่องของ Steve Jobs เคยอ่านแล้วครับ (เพื่อนที่อยู่อเมริกาบอกให้ดาวน์โหลดมาฟัง)
ผมอยากให้คนที่คิดฆ่าตัวตายได้ฉุกคิดแบบนี้บ้าง พวกเขาน่าจะมีโอกาสได้ทำประโยชน์อะไรให้โลกเราได้มากกว่านี้นะครับ
ผมก็เคยคิดสั้นเหมือนกันครับ
แต่พอคิดได้ว่านอนหลับไป
พรุ่งนี้ตื่นเช้าทุกอย่างอาจจะดีขึ้น
ถ้าไม่รอดู คงจะเสียดายแย่
ความคิดแบบนั้นก็หาย
วิธีเปลี่ยนความคิดของคนที่ต้องการฆ่าตัวตาย ผมว่าหลักใหญ่ๆ เลยคือให้เขาได้พูด ได้ระบายออกมานะครับ
คนที่คิดฆ่าตัวตาย หากเขาได้มีเวลาคิดอะไรอีกสักนิด หรือได้ฉุกคิดอะไรขึ้นมาสักหน่อย ก็อาจช่วยเปลี่ยนความตั้งใจของเขาได้ครับ
สิ่งหนึ่งที่น่าจะเป็นยารักษาอาการคิดฆ่าตัวตายคงเป็น "ความหวัง" อาจจะให้คนที่มองโลกในแง่ดีไปคุยกับเขา ให้เขาได้คิดว่า ยังมีอะไรดีๆ รอเขาอยู่ในอนาคต
ชีวิตก็เหมือนกีฬาแหละครับ ตราบใดที่ยังไม่หมดเวลา ผลการแข่งขันก็ยังมีโอกาสพลิกไปพลิกมาตลอด นอกจากว่าเขาจะยอมแพ้เอง :)
โอ ท่าน แวะเข้ามาเยี่ยมเยือนครับ เขียนได้ดีครับเป็นบล้อกที่อ่านแล้วสบายบล็อกหนึ่ง
รองจาก ( someone )
แต่ที่มันยากก็คือคนที่อยากตายนั้นยากที่จะมองเห็นสิ่งที่ดีๆ อยู่ข้างหน้า หากแต่ว่าความตายบดบังความรู้สึกดีไปหมดแล้ว
เอ วัง..
เพิ่มนิ๊ด เนื่องด้วยจรรยาบรรณจึงไม่สามารถบอกได้ว่า blog ใคร เจ๋งเลิศ :D
อืม นั่นนะสิครับ คนที่อยากตายมักจะลืมมองอะไรไปอีกหลายๆ อย่าง
คิดว่าถ้าให้เขาได้พูด ได้ระบายออกมาเยอะๆ น่าจะพอช่วยได้บ้าง
ผมว่าที่น่ากลัวที่สุด คือคนที่ไม่ยอมพูด แล้วทำเลยนี่แหละครับ จะแก้ไขอะไรไม่ทัน
ใครคิดฆ่าตัวตาย อยากให้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้
http://zmen.exteen.com/20051214/suicide
Post a Comment
<< Home