วันนี้ผมมีโอกาสได้เดินทางไปตากอากาศ(และมลพิษ)ระหว่างทางไป-กลับพันธุ์ทิพย์อีกครั้ง
การเดินทางครั้งนี้ได้เห็นเรื่องที่ทำให้ยิ้ม และเรื่องที่ทำให้ต้องเก็บมาครุ่นคิดด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์ที่ว่าก็คือ เมื่อตอนขากลับจากพันธุ์ทิพย์ผมขึ้นรถประจำทางปรับอากาศแบบยูโร (รถส้ม) ที่หนึ่งป้ายก่อนถึงป้ายที่ผมต้องลง มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง คงอยู่ในวัยราวๆ เด็ก ม.๓-ม.๔ เพราะเห็นพวกเด็กผู้ชายหัวยังเกรียนๆ กันอยู่ เด็กผู้ชายคนหนึ่งได้ที่นั่ง ... และเขาพึ่งหย่อนก้นลงนั่งได้ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็มีเด็กผู้หญิงวัยรุ่นน่าจะอายุไล่ๆ กันขึ้นมาบนรถ (คาดว่าพวกเขาคงมาเรียนพิเศษกันแถวนี้) เด็กวัยรุ่นชายคนนั้น จึงลุกให้สาวทึ่พึ่งขึ้นมานั่ง ผมหันไปมอง แล้วก็อมยิ้ม ... เพราะวัยรุ่นสาวคนนั้นหน้าตาน่ารัก ผิวขาว ส่วนวัยรุ่นชายที่ลุกให้นั่ง ก็ผิวขาว แต่หน้า...แดง...มาก... ผมเห็นหน้าเขาแดงตั้งแต่คางขึ้นไปจนถึงหน้าผากและใบหู .. นี่ถ้าหากโกนผมเขาออกให้หมด ก็อาจจะมองเห็นได้ว่า เลือดได้สูบฉีดอย่างแรงขึ้นไปเลี้ยงหัวเขาทั้งหัวเลยกระมัง (ลูกผู้ชายตัวจริง นิ่งๆ แต่จริงๆ ขี้อาย)
ส่วนเรื่องที่ทำให้เก็บมาครุ่นคิดคือเด็กสาวคนนั้นมิได้เอ่ยคำว่าขอบคุณ ... แต่ทำหน้างงๆ (หรืออาจจะเขิน)
ผมนำเรื่องนี้กลับมาคิดตลอดทางที่เดินจากป้ายรถเมลที่ผมลง จนกลับมาถึงร้าน ... ลองนึกๆ ย้อนไปหลายๆ ครั้งที่ผมลุกให้คนที่คิดว่าสมควรจะได้นั่ง (เด็ก สตรีมีครรภ์ คนชรา ผู้พิการ ฯลฯ) มีบ่อยครั้งที่ผมไม่ได้ยินเขากล่าวคำว่าขอบคุณ หรือบางครั้งที่เห็นคนอื่นๆ ลุกให้คนอื่นๆ ได้นั่ง ผมก็ไม่ค่อยได้ยินคำว่าขอบคุณจากผู้ที่ได้รับการเอื้อเฟื้อนั้นเลย ... ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรจนกระทั่งวันนี้
สิ่งที่ทำให้ผมคิดก็คือ ... มันเป็นหน้าที่หรือเปล่าที่เราจะต้องลุกให้คนอื่นนั่ง? บางทีเราก็ป่วย เราก็ไม่ได้แข็งแรงและต้องการที่นั่งเหมือนกัน แต่เราก็ยังลุกให้คนที่เราคิดว่าสมควรมีที่นั่งเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเขา หรือเพื่อความสุขสบายของเขา ... เราทำเพื่ออะไร? ทำเพื่อความดี? ทำเพื่อรู้สึกว่าเราเป็นคนดี? เราทำเพื่อเสริมอัตตาของเราเองว่ากูเป็นคนดี?
เคยได้อ่านเรื่องขำขันเรื่องหนึ่ง ... นานมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบนรถเมล์ มีชายคนหนึ่งลุกให้หญิงสาวที่พึ่งขึ้นมาใหม่ได้นั่ง แล้วเขาก็โน้มตัวลงไปถามหญิงสาวคนนั้นว่า
"ตะกี้คุณพูดว่าอะไรนะครับ?"
เธอสวนกลับมาว่า "เปล่า ชั้นไม่ได้พูดอะไรสักคำ"
"อ๋อ เหรอครับ .. ผมนึกว่าผมได้ยินคุณพูดคำว่า 'ขอบคุณ' เสียอีก"
สงสัยว่าคราวต่อๆ ไป อาจจะต้องนำมุขนี้ไปใช้บ้าง