.comment-link {margin-left:.6em;}

Noi's life & thoughts

Saturday, July 30, 2005

Big day

วันโกลาหล

เน็ต True ล่มตั้งแต่บ่ายวันที่ ๒๗ มาใช้ได้ช่วงค่ำของวันเดียวกัน แล้วมาเจ๊งอีกรอบตอนกลางคืนวันที่ ๒๘ เราจะปิดร้านก็ไม่ได้ เพราะมีน้องลูกค้าคนหนึ่งต้องส่งงานวันรุ่งขึ้น (ศุกร์ที่ ๒๙) นอกเหนือจากที่ว่าน้องต้องส่งงานแล้ว อีกเหตุผลที่ต้องช่วยน้องเขาจนกว่างานจะเสร็จ ก็เนื่องจากน้องเขาจะมาทำงานที่ร้านหลายทีแล้ว (น้องฝากแผ่นเก็บงานไว้ที่ร้านด้วย) แต่ปรากฏว่าเราปิดร้านหนึไปกินข้าวฟรีของเพื่อนตึ๋งที่พึ่งกลับมาจากเมืองนอกซะสามวัน (ตึ๋งกลับมาชั่วคราว เราเลยซัดข้าวฟรีของเพื่อนตึ๋งไปซะสามมื้อ สบายแฮ)

สรุปคืนนั้นต้องต่อโมเด็มเส้นเดียวขึ้นไปให้น้องใช้งานชั่วคราวก่อน กว่าจะเสร็จงานก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง เลยรีบกลับไปนอนบ้าน เพราะว่ายาฆ่าปลวก ที่ฉีดไว้ยังไม่หมดกลิ่นดี

เข้าวันที่ ๒๙ ตื่นแต่เช้ามาต่อเน็ตฟรีของ ToT เข้าไปเช็ค network status ของ True เห็นว่า Link ของ IIG ที่ล่มไปเมื่อคืนวาน up ขึ้นมาแล้ว แต่พอมาถึงร้าน ปรากฏว่า เน็ต Ture ล่มอีกแล้ว คราวนี้ Link ในประเทศล่มไปเส้นนึง -_-" แต่ว่าที่ร้านไม่สามารถใช้งานได้เลย ไม่ว่าจะนอกหรือในประเทศ .. สรุปเดือนนี้ (นับถึงตอนนี้นะ) True ล่มไป ๕ วัน คือ ๒๐, ๒๓, ๒๗, ๒๘, ๒๙ -"-

กำลังจะโทรไปเฉ่ง True ก็พอดีมีลูกค้ามาคนนึง เลยต้อง up analog modem ขึ้นหนึ่งเส้น กำลังจะ up เส้นที่สอง ก็นึกได้ว่าต่อโทรศัพท์ไปแจ้ง True ก่อนดีกว่าว่าเน็ตล่ม จะได้ให้เขาทำเรื่องขอลดหนี้ให้เรา แต่พอจะโทรปุ๊บ ปรากฏว่าสายโทรศัพท์ของ ToT ไม่มีสัญญาณ เลยออกไปใช้โทรศัพท์สาธารณะแจ้ง ๑๑๗๗ แล้วพี่ช่างที่เข้ามาช่วยดูให้เมื่อคราวที่แล้วก็โทรเข้ามือถือเพื่อสอบถามอาการ และให้ลองเช็คสายตามจุดต่างๆ ว่าหลุดหรือเปล่า ตรวจสอบตามที่พี่เขาบอกทุกอย่าง ก็ไม่เห็นว่ามีตรงไหนผิดพลาด พี่เขาเลยบอกว่าเดี๋ยวจะเข้ามาดูให้

วางสายจากพี่ช่างได้สักพักใหญ่ คุณแม่ก็โทรเข้ามาที่สาย ToT ที่มีปัญหานั่นแหละ เราก็เลยนึกว่าเออพี่เขาซ่อมเสร็จเร็วดีแฮะ พอวางสายจากคุณแม่ปุ๊บก็เลยโทรไปหา True แล้วก็มีการโอนสายกันไปมา ยังคาสายอยู่กับ True เลย พี่ช่างของ ToT ก็เข้ามาตรวจสอบสายให้ เราก็อ้าว นึกว่าพี่ซ่อมแล้ว เพราะมันใช้ได้แล้วเนี่ยะ พอวางสายจาก True แล้วพี่ช่างของ ToT ก็จัดการกับสายโทรศัพท์เส้นนี้จนเรียบร้อย (แสดงว่าแม่เราเจ๋ง โทรเข้ามาทีเดียว สายโทรศัพท์ที่เสียอยู่ใช้ได้เฉย)

อ้อ ลืมเล่าไปนิดนึง คือระหว่างที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ปรากฏว่าเครื่องที่เป็น windows ตัวเดียวในร้านก็ HANG แล้วๆ เล่าๆ อยู่หลายรอบ หาสาเหตุไม่เจอ คาดว่าเป็นที่ ฮาร์ดดิสก์ หรือไม่ก็แรม หรือไม่ก็การ์ดจอ หรือไม่ก็อะไรสักอย่างในนั้น เพราะว่าเครื่องมันแก่มากแล้ว เลยยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวายสับสนเข้าไปใหญ่

พอสายโทรศัพท์ของ ToT ซ่อมเสร็จ ก็เลย up analog modem ขึ้นไปอีกตัวเป็น สองโมเด็มคู่กัน แล้วรอสลับไปเป็น ADSL ในช่วงบ่าย เพราะทาง True แจ้งว่าให้ลองต่ออีกทีตอนประมาณบ่ายโมง

เมื่อถึงเวลาก็ลองสลับสายไปเป็น ADSL เย้ ใช้ได้แล้ว :D ดีใจมาก แต่เครื่องที่เป็น windows ก็ยังทำสถิติการดับไปเอง การรีบูทเอง การค้างแข็งไปดื้อๆ การแสดงหน้าจอฟ้าวัยรุ่นเซ็ง อยู่อย่างขะมักเขม้น (สถิติมันสูงจนนับไม่ไหว คือเป็นแทบจะทุกๆ ๕ นาที จนตอนหลังต้องปิดมันไปเลย)

เย็นๆ ค่ำๆ เพื่อนๆ มาหาที่ร้าน มีอั๋น หมีเล็ก ต่อและองุ่น เราเลยปิดร้านชั่วคราวออกไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนชั่วโมงนึง ให้เพื่อนๆ ไปก่อน เราเดินตามไปทีหลัง

ตอนดึกๆ ปิดร้านแล้วยกเครื่องที่เป็น windows ออกมาทำความสะอาดภายใน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เติมซิลิโคนให้ซีพียูด้วย เพราะอาการหน้าจอฟ้าที่เห็นครั้งสุดท้ายมันคล้ายๆ กับตอนที่พัดลมซีพียูไม่ทำงาน พอจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วก็ต่อมันกลับเข้าที่ พอเสียบสายทุกอย่างเรียบร้อย เราก็เหนื่อยมากแทบจะสลบเสียให้ได้ (อายุเลยวัยรุ่นมานิดนึงแล้วไง เลยเหนื่อยง่ายกว่าวัยรุ่นทั่วไปนิดหน่อย) กลับบ้านไม่ไหว สลบอยู่บนเก้าอี้สี่ห้าตัวในร้าน

เช้านี้ (๓๐ ก.ค.) ตื่นแต่เช้า มาทำความสะอาดร้านจากที่รกๆ เมื่อคืน (ยังไม่ได้เก็บเครื่องมือในการงัดแงะ ชำแหละเครื่อง windows ออกมาทำความสะอาด) ซื้อน้ำเต้าหู้มาดื่มแล้วกลับบ้านไปอาบน้ำ กินข้าว (ฟรี ของคุณแม่ แหะๆ)

กลับมาถึงร้านตอนสายๆ เปิดคอมพิวเตอร์ที่เคาท์เตอร์ เปิดเครื่องวินโดวส์ เปิดเครื่องเตรียมไว้ให้ลูกค้าอีกหนึ่งเครื่อง เปิดไฟในร้าน .. พรึ่บ เครื่องที่เป็นวินโดวส์แฮงค์ อะไรวะ พึ่งถอดอุปกรณ์ออกมาทำความสะอาดเมื่อคืนเองอะ เคืองมาก กดปุ่ม reboot ... boot ขึ้นมาใหม่ แล้วค้างตรงหน้า logo -_-" กด reboot อีกที อะคราวนี้เข้า windows ได้แล้ว แต่เปิดโปรแกรมฟังวิทยุออนไลน์ได้ไม่ถึงห้านาที มันก็ค้าง ลองเอาการ์ดจอ ATI เก่าๆ ที่มีอยู่มาเสียบแทน SiS 6326 แล้วมัน boot ไม่ขึ้นเลย -"- พอดีน้องเอกแวะมาหา เราก็บอกว่าสงสัยจะมีปัญหากับการ์ดจอ น้องเอกเลยบอกว่าเดี๋ยวจะเอาการ์ดจอมาให้ลอง

น้องเอกกลับมาพร้อมกับการ์ดจอ การ์ดตรวจสอบความผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ การ์ด back up system ลองไปลองมาหลายอย่าง ทั้งสลับ ram ทั้ง uninstall โปรแกรมบางตัวที่คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุของปัญหา ลองเปิดโปรแกรมต่างๆ ลองใช้งานหนักๆ ลอง scan disk ลอง defrag อยู่นาน เออไม่เห็นมันเป็นอะไรแล้วนี่หว่า น้องเอกก็ขอตัวกลับไปก่อน ปล่อยให้เราลองต่อไป เราก็คิดว่าแหม เสียเวลากับ windows แทบจะทั้งวันแล้ว ตอนนี้มันไม่เป็นอะไรแล้วมั๊ง เลยเอามันกลับเข้าที่

กดปุ่มเปิดเครื่องปุ๊บ เครื่องค้าง ... อะราาาาาาาาาาาาายยยยยยยยยยยยยยยย ว๊าาาาาาาาาาาาาา แว๊กๆ โมโห เคือง กลัวด้วย (มันเหมือนโดนผีหลอกมากเลยนะ ... ฮือแม่จ๋า หนูโดนผีคอมพิวเตอร์หลอก) เอาใหม่ๆ ให้โอกาสมันอีกครั้ง กดปุ่ม reboot .. เครื่องค้าง .. แง๊ .. น้องเอกมาพอดี กดดูนู่น ดูนี่ reboot เข้า windows ได้ เปิด realplayer สองนาที โปรแกรมแสดงข้อความ error น้องเอกเลยจัดการไปดาวน์โหลดตัว .dll ที่มันบอกว่าหายไปมาใส่เข้าไป reboot ทีนึงเพื่อความชัวร์ เครื่องค้างที่ logo windows -_-" เอ้า ให้โอกาสมันอีก reboot เข้า windows เปิด realplayer เครื่องแข็งไปเลย reboot เข้า windows เปิด windows media player .. เครื่องค้างทันที -"-

น้องเอกสรุปว่า windows เจ๊ง เพราะเราไปถอดโปรแกรมออกเยอะ .. คืนนี้คงต้องอยู่ format ลงมันใหม่อีกแล้ว หลังจากที่ไม่ได้ format เจ้าเครื่องนี้มาปีนิดๆ -_-"

เอาวะ format ลงใหม่ยังดีกว่าต้องซื้อเครื่องใหม่ (พยายามมองโลกแง่ดีสุดๆ ... แง่งๆ)

Thursday, July 28, 2005

termite

ปลวก

ปลวก [N] termite; white ant
Class. ตัว
Def. ชื่อแมลงรูปร่างคล้ายมด ส่วนใหญ่ตัวสีขาวหรือครีม ไม่ชอบแสง อาศัยทำรังรวมกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่บนพื้นหรือใต้ดิน บางชนิดทำลายไม้ ต้นไม้.
Sample:ไม้สักเป็นที่นิยมใช้กันมากเพราะเนื้อไม้ไม่แข็งไม่หดตัวและปลวกไม่กัดกินทำลายเนื้อไม้

อ้างอิงจาก LeXitron Thai <=> English dictionary

====
เมื่อคืนปิดร้านแล้วลากกล่องที่วางซ้อนๆ กันไว้แถวๆ เคาท์เตอร์ตรงหน้าร้านออกมา เพื่อกวาดฝุ่นที่สะสมไว้นานแล้ว ปรากฏว่าเจอปลวก (อีกแล้ว) คราวนี้พวกมันกำลังกินกล่องใส่เมนบอร์ด ที่เรานำมาใส่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ไว้ เช่น sound card, lan card, หนังสือคู่มือเมนบอร์ด, แผ่น driver, สายแพ ฯลฯ

เห็นว่าปลวกพึ่งกินไปได้ประมาณ ๑ ใน ๔ ของพื้นที่ผิวหน้ากล่อง อาจจะเพราะมันพึ่งเข้ามากิน และอาจจะเป็นเพราะเราเอาพลาสติกรองด้านในเอาไว้ด้วย ทำให้มันกินได้ช้า แล้วคิดว่า ข้าวของข้างในเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ซะส่วนใหญ่ มันคงกินไม่ได้ ก็เลยชะล่าใจ แค่เอายาฉีดปลวกฉีดตรงบริเวณที่เห็นว่ามีปลวก แล้วกลับไปนอนบ้าน

ตอนเช้าเล่าให้คุณพ่อฟังว่าเจอปลวกกินข้าวของในร้านอีกแล้ว คุณพ่อแนะนำว่า ให้เอาเกลือมาโรยก่อนจะวางของลงไป ตอนแรกว่าจะหิ้วเกลือจากที่บ้านมาด้วย แต่นึกได้ว่าที่ร้านก็มี ซื้อเกลือมาใช้นานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เป็นแผลร้อนในตรงเนื้อเยื่อใกล้ๆ คอ ซื้อเกลือมาจาก 7-11 เป็นถุงใหญ่มาก คาดว่ามีมากพอที่จะใช้โรยบริเวณที่ต้องการ

เดินมาเปิดร้าน ถึงได้รู้ความจริงว่า ปลวกกินด้านในของกล่องไปเกือบหมดแล้ว เหลือแต่ด้านหน้าที่เป็นสีและมียาฆ่าปลวกเคลือบอยู่ -_-" พอยกเอาของในกล่องออกมา ปรากฏว่าเสีย sound card ไปตัวนึง เพราะปลวกมันเข้าไปอยู่เต็มรูสำหรับเสียบแจ๊คทั้งสี่รูเลย -_-" แล้วตัดสินใจ ทิ้งคู่มือเมนบอร์ดทั้งหมดไป เพราะไม่มั่นใจว่าโดนปลวกวางไข่ไว้หรือเปล่า แต่ก็เห็นว่ามีปลวกกลุ่มนึงกำลังแทะคู่มือเล่มนึงอยู่อย่างเอร็ดอร่อย (แค้นจริง)

งานนี้เลยต้องใช้ยาฆ่าปลวกก่อน แล้วโรยเกลือตามลงไป อืม ... ที่จริงตัดสินใจผิดไปนิดนึง น่าจะโรยเกลืออย่างเดียว เผื่อว่าจะได้มีปลวกคลุกเกลือไว้กินเป็นขนม เนอะ

Tuesday, July 26, 2005

ซ่อมแล้ว

แจ้งซ่อมสายโทรศัพท์แล้ว หลังจากที่มันมีเสียงดัง ค่อกๆ แค่กๆ อยู่นาน (ที่จัดการแก้ไขเองไปในคราวที่แล้วปรากฏว่า ใช้ได้ไม่นาน ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก)

วิธีแจ้งซ่อมสายโทรศัพท์ กด ๑๑๗๗ แล้วตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการแจ้ง อย่าไปกด ๑๗ แล้วตามด้วยหมายเลขเจ็ดตัว หรือเก้าตัวนะ -_-" เดี๋ยวไปติดประกันอะไรสักอย่างเหมือนที่ทำไปเมื่อเช้านี้ (แหะๆ)

Friday, July 22, 2005

To my friends

Dear my friends,

I've just got a news from a friend that one of my seniors at university has passed away this morning. She was a very cheerful person and was only mid-thirty.

Feeling sad about the news, it also makes me think of lots of friends.

Many times in the past, I wanted to tell you guys how much I miss you, but I never did.

Long time ago I got a forwarded e-mail subject "I have a friend around the corner ...", maybe you have already read that e-mail too.

This time I really feel that our lives are short and badly want to tell all of you that I love you guys.

I wish you all have a good life and be happy most of the time.

Once again ... I love you and miss you, my friend.

NOI

Wednesday, July 20, 2005

Yo-Yo

โอย .. เจอ โยโย่ เอฟเฟค เข้าให้แล้วสิเรา

เช้าวานชั่งได้ ๖๔ ตกใจ เพราะไม่อยากให้น้ำหนักลงไปมากกว่านี้แล้ว ต้องการให้คงอยู่ที่ ๖๕ เมื่อวานเลยกินซะหลายอย่าง ทั้งขนมระหว่างมื้อ (แฟนซื้อมาฝาก) โอวัลติน (ก็มันหิว) และ Burger King หลังเที่ยงคืน -_-" (พี่อาคม กับน้องเอกชวนไป เพราะเห็นเราร่ำร้องอยากไปมาหลายคืน)

เช้านี้ชั่งได้ ๖๖ -_-" เอาแล้วไงตู วันเดียวขึ้นมาสองกิโลฯ อย่างนี้ต้องรีบคุม แต่ว่ากำลังหิวเลยนะ (ฮือๆ)

เอ ... หรือว่าที่จริงแล้ว อาจจะเป็นปฏิกิริยาทั่วๆ ไป ของคนหล่ออย่างเรา อาจจะต้องเป็น โยโย่เอฟเฟค ก่อนจะมีหุ่นดีแบบ เบน เอฟเฟค (Ben Affleck) ไง :D

(ยังไงก็ตาม ต้องรีบคุมน้ำหนักกันอีกรอบแล้วสิเนี่ย ก่อนจะคุมไม่อยู่)

Monday, July 18, 2005

กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ที่ร้านแอร์จะเย็น และเปิดเพลง Jazz ผ่านวิทยุจากอินเตอร์เน็ตคลอเบาๆ สบายๆ ทั้งวัน ลูกค้าหลายรายมักจะพูดว่า มาร้านนี้ทีไร ง่วงทุกที

มีพี่ลูกค้าคนหนึ่งชอบเข้ามาอาศัยแอร์เย็นๆ นั่งหลับบ่อยๆ แต่เคยตกลงกันแล้วว่า เนื่องจากเดี๋ยวนี้ เราไม่ได้มีพฤติกรรมแอบลูกค้าหลับแล้ว ดังนั้น ห้ามคนอื่นมานั่งหลับในร้านด้วย ต้องตื่นอยู่เป็นเพื่อนกัน ถ้ามาแอบหลับแล้าเราจับได้ จะถูกจี๋เอวให้ตื่น คืออนุญาตให้เข้ามาในร้านได้ แต่ห้ามนั่งเฉยๆ ต้องหาหนังสืออ่านหรือทำกิจกรรมอะไรไป ห้ามนอนเด็ดขาด ถ้าง่วงก็กลับไปนอนที่บ้านให้เรียบร้อย

เมื่อไหร่ที่เห็นพี่เขาหลับ ก็จี๋เอวพี่เขาให้ตื่น และก็เคยจี๋เอวไปหลายครั้งแล้ว หลังๆ มาพี่เขาเลยมักจะฟอร์มนั่งกดโทรศัพท์มือถือ นัยว่ากำลังศึกษาการเขียนเกมส์จาวาบนมือถืออยู่ แล้วแอบหลับเหมือนเดิม เราก็ทำเป็นไม่เห็นบ้าง หรือแกล้งทำเสียงดังให้พี่เขารู้ตัวบ้าง บางทีก็ทำเป็นย่องไปเตรียมจี๋เอว แต่ทำเสียงดังหน่อยให้พี่เขาตื่นก่อน

วันนี้พี่คนนั้นเข้ามาอีก แต่ไม่ได้ใช้บริการ อาจจะตั้งใจว่ามานั่งเพื่อให้คลายร้อนสักพัก แต่แล้วก็เอาโทรศัพท์มือถือออกมาก้มหน้ากดๆ

เรากำลังนั่งอ่านเว็บต่างๆ อยู่ หันไปอีกที อ้าวพี่จ๋า หลับนกนั่งโยกซะแล้ว

ตอนแรกว่าจะย่องไปจี๋เอว แต่อีกใจก็นึกว่าลองปล่อยดูสิว่าถ้าได้ยินเสียงอะไรหน่อยจะตื่นไหม ก็เลยเดินไปกดน้ำร้อน ยกแก้วขึ้นซด แล้วยืนดูพี่เขาหลับนก จังหวะนั้นมีลูกค้าต่างชาติที่นั่งอยู่เครื่องใกล้ๆ แถวนั้น หันมาดู แล้วเห็นเรากำลังจ้องพี่คนที่นั่งหลับ ก็อมยิ้มแล้วหันกลับไปในลักษณะพยายามกลั้นหัวเราะ เราก็เลยพลอยจะหัวเราะกับเขาไปด้วย แต่หัวเราะไม่ได้สิ เพราะน้ำร้อนยังอยู่ในปาก ยังไม่ทันได้กลืนลงไป แล้วถ้าบ้วนน้ำทิ้งไปก่อนก็คงไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้แน่ๆ คงต้องหัวเราะดังลั่นร้าน เดี๋ยวพี่เขาตื่นมาแล้วจะอาย ก็เลยหันหลังให้พี่เขาและลูกค้าคนนั้น โดยหันหน้าออกไปทางหน้าร้าน ทำใจให้เป็นปกติ ก่อนจะกลืนน้ำลงคอไป

พอหันกลับมาอีกที พี่ก็ยังไม่ตื่น เราก็ยกแก้วกาแฟขึ้นซดอีกครั้ง ลูกค้าต่างชาติหันมาอมยิ้มอีกรอบ โอยเราจะตายให้ได้ หัวเราะไม่ออก ต้องรีบหันหน้ากลับไปทางหน้าร้านอีกที กลั้นหัวเราะเต็มที่ และต้องระวังไม่ให้สำลักน้ำอีกต่างหาก พอกลืนน้ำได้แล้วก็คิดว่า ไม่ไหวแล้วเว้ย ปล่อยพี่เขาหลับไปก่อนละกัน เดินกลับมานั่งที่โต๊ะตัวเอง แล้วเริ่มพิมพ์ข้อความเหล่านี้

แต่ตอนนี้พี่เขาตื่นแล้ว เพราะมีเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องของเขาดังขึ้นมา พอพี่เขาตื่นก็เปลี่ยนอิริยาบถ นั่งกอดอก เอนหลังพิงข้างฝา เหยียดแข้งเหยียดขา อยู่ในท่าสบายเต็มที่ แล้วก็หลับตา อะ .. มาท่านี้ เราต้องจี๋เอวแน่นอน กำลังจะลุกไปปฏิบัติการ พี่เขาคงนึกได้ก่อนว่าเดี๋ยวโดนไอ้หอกนี่จี๋เอวแน่ๆ เลยรีบลืมตาแล้วนั่งใหม่ หดขาหลังตรง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วมายืนที่เคาท์เตอร์สักพ้ก และเดินออกจากร้านไปแล้ว :D

Sunday, July 17, 2005

คุยกับคนเป็นแม่

วันเสาร์ ๑๖ (วันหวยออก) มีลูกค้าเด็กผู้หญิงมาใช้บริการ มากับคุณแม่ แต่คุณแม่นั่งรอ แล้วคุณแม่ก็ชวนเราคุย เพราะบอกว่าเจอแอร์เย็นๆ แล้วง่วง ... ข้างล่างนี้เป็นการสนทนากับคนเป็นแม่

"ร้านของหนูเล่นเกมส์ได้ด้วยไหม ?"
"ไม่ได้ครับ ร้านผมใช้อินเตอร์เน็ตอย่างเดียว แต่บางทีเด็กๆ ก็มาหาเกมส์บนอินเตอร์เน็ตเล่นกันเอง"

"ลูกชายพี่นะ เมื่อก่อนติดเกมส์มาก ไปอยู่ร้านเกมส์ตั้งแต่ตอนเย็น ยันหกโมงเช้าอีกวัน"
"โอ้ ก็ต้องเตือนๆ เขาบ้างแหละครับ"

"แต่เดี๋ยวนี้เขาโตแล้ว อายุสิบเจ็ดแล้วก็ไม่เป็นแล้วนะ เมื่อก่อนพี่โมโหบอกให้เขาขนเสื้อผ้าไปอยู่ร้านเกมส์เลย แต่พอเขาโตมาก็ไม่ติดเกมส์แล้ว"
"อืมดีครับ แสดงว่าเขารู้จักคิด แล้วคิดได้เองนี่นับว่าเยี่ยมเลยนะครับ"

"อ๋อ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเตือนไม่ต้องบอก เขาเลิกติดเกมส์เด็ดขาดเลย เดี๋ยวนี้ไม่เอาเลย .. แต่มันไปติดหญิงแทน"

/me -_-"

พี่ (คุณแม่ของลูกค้า) ยังมีคอมเม้นต์ตามมาอีกว่า "พี่ว่าให้เขาติดเกมส์ยังดีกว่า เพราะพี่ตามตัวง่าย โทรไปถามที่ร้านปุ๊บรู้ได้ทันที ไม่ต้องห่วง"

Friday, July 15, 2005

หลากหลายเรื่องราว

เช้าวันที่ ๑๒ กรกฎาคม สามารถชักจูงลูกค้าต่างชาติ (แต่ได้สัญชาติไทยแล้ว) ให้ใช้ Firefox บนเครื่อง Power Book แทนการใช้ IE ได้สำเร็จ ลูกค้าคนนี้เป็นอาจารย์ที่ทำสารคดีเกี่ยวกับรอยพระพุทธบาททั่วโลก (เว็บ) เมื่อได้สัมผัสกับ Firefox แล้ว อาจารย์ไซเลอร์ถึงกับตะลึงในความเร็วปรู๊ดปร๊าดของมัน (ที่จิ้งจอกตัวนี้มันเร็ว เป็นเพราะมันยังไม่ถูกตอน หรือเป็นเพราะมันถูกไฟไหม้หางอยู่นะ ??)

ตอนหัวค่ำ วันเดียวกัน พี่เจษ ร้านใกล้ๆ กัน โทรมาถามว่าเราได้ตรวจเครื่องบ้างหรือเปล่า ให้ระวังคนแอบดาวน์โหลดเพลงของแกรมมี่มายัดไว้ในเครื่อง เพราะพี่เขาพึ่งเจอคนเข้ามาตรวจค้นสดๆ ร้อนๆ แต่เนื่องจากคนที่เข้ามาขอตรวจค้นไม่สามารถหาเหตุผลใดๆ มาอ้างได้ว่ามีอำนาจเข้าตรวจค้นตามกฎหมาย จึงเปลี่ยนทีท่ามาขอความร่วมมือในการตรวจค้นแทน

พี่เขาเล่าให้ฟังว่า

๑. มีคนมาอ้างว่าจะขอเข้าตรวจ มาพร้อมกับตำรวจ มาในยามวิกาล (หลัง ๖ โมงเย็น) แต่ไม่มีหมายศาล
๒. พี่เขาจึงบอกว่าไม่ได้ เพราะไม่มีหมายศาลมา และเป็นยามวิกาลแล้ว
๓. คนพวกนั้นอ้างว่า ร้านอินเตอร์เน็ตถือเป็นสถานที่สาธารณะ ไม่ต้องมีหมายศาล
๔. พี่ถามกลับว่า กฎหมายข้อไหนวะ เอามากางให้ดูหน่อย
๕. และพี่เขาได้โทรไปที่สถานีตำรวจในท้องที่ เพื่อตรวจสอบว่า มีตำรวจจาก สน. มาจริงๆ หรือเปล่า โดยขอสายกับผู้กำกับ สน.
๖. ทาง สน. แจ้งว่า ส่งมาจริง เพราะได้รับการร้องขอ
๗. แต่เนื่องจากคนกลุ่มนี้ไม่มีหมายศาล จึงเปลี่ยนท่าทีจากขอเข้าตรวจค้น เป็นขอความร่วมมือตรวจเครื่อง
๘. พี่เขาตกลงให้ความร่วมมือ
๙. ผลการตรวจพบไฟล์ mp3 เป็นเพลงของแกรมมี่ที่สามารถดาวน์โหลดได้จากอินเตอร์เน็ต (ยิ่งเดี๋ยวนี้ e-mail สามารถเก็บไฟล์ได้เป็น กิกกะไบท์ mp3 เพลงนึงไม่เกิน ๕ เมกฯ สบายมาก) มีอยู่สามเพลง อยู่ในเครื่องเพียงเครื่องเดียว ไม่ได้มีอยู่ทุกเครื่อง
๑๐. พี่เขาเลยเฉ่งว่า จะมากล่าวหาว่าดาวน์โหลดมาให้บริการได้ยังไง ในเมื่อมีอยู่เครื่องเดียว ไม่ได้มีอยู่ทุกเครื่อง แถมมีแค่สามเพลงอีกต่างหาก อย่างนี้น้องก็หากินง่ายไปหน่อย ถ้าน้องทำธุรกิจแบบนี้ น้องจะมีวิธีป้องกันได้ยังไง
๑๑. เขาตอบว่า ให้ใช้การ์ด undo
๑๒. พี่เขาถามกลับว่า น้องทำแบบนี้ ตั้งใจจะมาขายการ์ดเหรอ
๑๓. (จ๋อย)
๑๔. พี่เขาจึงแสดงเจตนารมย์ต่อไปอีกว่า อย่างนี้อีกหน่อย เจอใครที่ไม่ใช่ลูกค้าประจำ แล้วมาเกาะแกะกับเครื่อง ผมต่อยก่อนเลยนะ ฝากไปบอกพวกคุณด้วย
๑๕. คนพวกนั้น จึงขอความร่วมมือให้พี่เขาลบไฟล์ ที่ถูกแอบดาวน์โหลดมาไว้ที่เครื่องทิ้งไป

แล้วพี่เจษก็โทรมาเล่าให้ฟัง
๑. พี่บอกว่าอีกหน่อยพี่จะต่อยก่อนค่อยถาม
๒. เราบอกว่า ดีพี่ เอามันเลย แล้วพี่โทรมาบอกหนูด้วยนะว่าอยากกินอะไร เพราะหนูไม่มีตังค์ไปประกันตัวพี่นะ แต่จะคอยส่งข้าวส่งน้ำให้แทนละกัน (แหะๆ)

เอกสารอ้างอิงมีประโยชน์ เกี่ยวกับ หมายศาล ร้านเน็ต ข้ออ้างว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า => (ที่นี่)

====
เมื่อวาน ชาร์ทแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ ... เสียบสายเข้าตูดโทรศัพท์เรียบร้อย แต่ลืมเสียบปลั๊ก ... มารู้ตัวว่าไม่ได้เสียบปลั๊กก็ตอนที่แฟนเราโทรมา พอวางสายจากแฟนเลยเสียบปลั๊กที่ชาร์ทแบตฯ แต่คราวนี้วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ สายชาร์ท ... ลืมเอาสายชาร์ทเสียบตูดโทรศัพท์ -_-"

====
เช้านี้ (๑๕ กรกฎาคม) ไปสามธนาคารและอีกสองสถานที่ โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ ... เอาตังค์ไปธนาคาร แต่ใส่บัญชีคนอื่น -_-" (ใช้หนี้ใช้สิน)

สองสถานที่นอกเหนือจากธนาคารที่ว่าก็เป็นองค์การโทรศัพท์ (ไปจ่ายค่าโทรศัพท์ .. จ่ายตังค์อีกแล้ว) และเป็นโรงเรียนประถมแถวๆ ร้าน เป็นโรงเรียนที่มีอาจารย์สอนพิเศษมาช่วยสอนวิชาคอมพิวเตอร์ และมีการแบ่งพาร์ทิชั่นลง LinuxTLE ไว้ในคอมพิวเตอร์ด้วย ที่ไปวันนี้ก็นำแผ่น Linux ubuntu 5.04 ที่ได้มาจากคุณธนัย ไปให้หนึ่งชุด (หนึ่งแผ่น install และ หนึ่งแผ่น LiveCD)

อาจารย์เป็นผู้ชายหน้าตาดี ลักษณะท่าทาง น้ำเสียง มีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายๆ คุณเทพอยู่นะ แต่คุณเทพจ่อยกว่าเยอะ (อิอิ)

/me อย่างนี้เราก็ไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตามโรงเรียนได้เหมือนกันสิ เพราะเราก็หน้าตาดี :D

ตอนบ่ายไฟดับ ... ดับไปประมาณหนึ่งนาที -_-" กำลังมีลูกค้าเยอะเลยด้วยอะ ฮือๆ

====
เกือบลืมเล่าเรื่อง ฮอลส์ ล่าสุด

ตอนที่ซื้อ ฮอลส์ ห่อที่สองมากิน เราเปิดเจอ "สลากพิเศษ" ด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะแฟนบอกให้หาตัว H อย่างเดียว ก็เลยทิ้งไป ที่จริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งจริงๆ หรอก แต่มีพี่ลูกค้ามาขอ A-L-L-S ไปชุดนึง เลยให้พี่เขาเลือก แล้วพวกที่ไม่เกี่ยวข้องก็เลยทิ้งไปซะ

สองวันหลังจากที่ทิ้งห่อทั้งหมดไปแล้ว ก็มาอ่านเจอว่า "สลากพิเศษ" มีมูลค่า ๒๐,๐๐๐ บาท และมีอยู่แค่ ๖๐๐ รางวัล -_-"

วัยรุ่นเซ็ง เศร้า เหงา ซึมอยู่หลายวัน แรกๆ ก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง แต่หลังๆ เริ่มเล่าเพื่อปลดปล่อยความทุกข์ใจ (สองหมื่นบาทเชียวนะ ฮือๆ)

เมื่อวานนี้เอง ... อ่านเจออีกว่า หากสะสม H-A-L-L-S ครบ จะได้รางวัล ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และก็พวกสลากพิเศษ อย่างที่บอกไว้ข้างบน พออ่านต่อมาอีกนิดนึงก็เจอว่า ... "หมดเขต ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๘"

วัยรุ่นหายเซ็งเลย แล้วมานั่งขำตัวเอง เออตัวเราหนอ มัวแต่เศร้ากับรางวัลที่หมดอายุไปแล้ว :D

Sunday, July 10, 2005

สมน้ำหน้า

ตอนเย็นแฟนโทรมาเข้าเครื่อง FAX ที่ร้าน แล้วปรากฏว่ามันมีเสียงซ่าๆ แทรกอยู่ในสายเกือบตลอดเวลา (อาการนี้เป็นมานานแล้ว ว่าจะแจ้งช่างให้มาดูหลายที ก็ลืมทุกที) แถมแฟนเราก็ยังพูดเสียงเบาเชียว เราก็จับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง เลยหงุดหงิด ทำเสียงดังตะคอกใส่แฟนไปว่าให้พูดดังๆ หน่อย -_-"

แฟนงอน วางสายแล้ว ก็เลยมาลองหาวิธีแก้ปัญหาเสียงซ่าในสายโทรศัพท์ว่าจะพอมีทางไหม ตัดสินใจตัดปลายสายหลักที่ต่อจากข้างนอกวิ่งเข้ามาข้างในร้านไปประมาณ ๕ ซ.ม. แล้วปลอกสายต่อเข้าไปที่เต้ารับสายโทรศัพท์ใหม่อีกครั้ง

ทีนี้ไอ้ตอนที่ปลอกสาย ก็มีปัญหานิดหน่อย คือสายสีแดงปลอกได้เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา แต่สายสีเขียวหลังจากที่เอามีดคัตเตอร์บากทำรอยตรงตำแหน่งที่ต้องการให้มันขาดแล้ว แต่ว่าดึงปลอกไม่ออกสักที ด้วยความหงุดหงิดที่ยังคงไม่หายไปไหน (และยิ่งมีมากขึ้นเมื่อทำงานไม่ได้ดังใจ) เลยจะเอาฟันกัดปลอกสายสีเขียวแล้วดึงออก

พอเอาสายไฟเข้าปากปูีบ ก็เจอไฟดูดปั๊บ คือสายสีเขียวอยู่ในปาก โดนลิ้น ลิ้นถูกไฟดูด ส่วนสายสีแดงที่ปลอกไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่นอกปาก ตรงบริเวณระหว่างริมฝีปากล่างกับคาง ก็มีกระแสไฟฟ้ามาช๊อตตรงตำแหน่งนั้นเหมือนกัน -_-" (โง่ชิบฯ)

ด้วยความตกใจก็เอาสายไฟออกมาจากปาก (โมโหตัวเอง) แล้วพยายามเอามือดึงปลอกสายสีเขียวออกอีกรอบ ก็ไม่ออกอีก เลยเอามีดคัตเตอร์เฉือนปลอกสายไฟออกบางส่วน แล้วดึงใหม่ ก็ไม่ออกอีก ขาดสติชั่วคราว จะใช้ฟันกัดดึงปลอกสายไฟอีกครั้ง แต่โชคดีที่คราวนี้นึกขึ้นได้ว่าเดี๋ยวโดนไฟดูด (เกือบไป) เลยยั้งมือไว้ทัน แล้วใช้คัตเตอร์เฉือนปลอกออกจนหมด

เมื่อต่อสายโทรศัพท์กลับเข้าไปเหมือนเดิมแล้ว ก็สามารถแก้ปัญหาเสียงซ่าแทรกเข้ามาในสายโทรศัพท์ได้ เลยโทรไปหาแฟนเพื่อทดสอบสาย และเล่าให้ฟังว่าถูกไฟดูด แฟนเลยได้ทีสมน้ำหน้าที่เมื่อกี้ปากเสียทำเสียงดูใส่เขา -_-" (หนูผิดไปแล้วอะ ...)

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเสียงดังใส่แฟนที่เคารพ เพราะอาจได้รับการลงโทษจากสวรรค์ทันตาเห็น :P

Saturday, July 09, 2005

HALLS

เมื่อวานซื้อลูกอมฮอลส์ห่อเขียว รสเฟรชไลม์ จาก 7-11 ข้างร้านมาอมเป็นวันที่สาม เพราะว่าหาซื้อ Clorets กล่องเล็กไม่ได้ และเห็นว่าราคามัน ๖ บาทเท่ากัน ก็เลยเอา

ปรากฏว่าหลังจากอมไปได้ประมาณ ๔ เม็ด ก็พบว่า ห่อที่แกะล่าสุดนี้มีอยู่ไม่เต็มเม็ด กำลังเคืองๆ บริษัทฮอลส์ว่า เงินล้านก็ไม่แจก (กรณีกล่าวหาว่าตัว H เป็นของปลอม แถมยังฟ้องกลับผู้ที่อ้างว่าได้ตัว H ข้อหาปลอมแปลงอีกด้วย) แล้วยังจะมาโกงตูด้วยลูกอมไม่เต็มเม็ดอีกต่างหาก

กำลังนั่งคิดว่าจะแจ้งให้บริษัททราบยังไงว่าสินค้ามีปัญหา เขาจะเชื่อเราไหม ทำแล้วจะคุ้มค่าไหม ทั้งเวลา ทั้งค่าใช้จ่าย สมมติเขาตัดรำคาญจะให้ฮอลส์ซองใหม่เราไหม แล้วถ้าได้ฮอลส์ซองใหม่มา เกิดมีตัว H จริงๆ จะมีปัญหาอะไรตามมาอีกไหม ฯลฯ ปรากฏว่า เม็ดที่ ๗ เปิดห่อออกมาพบว่ามันมีอยู่เม็ดกว่าๆ (ฮอลส์ที่ขายอยู่ใน 7-11 หนึ่งห่อ มี ๙ เม็ด) นี่ถ้าไม่ได้อมเม็ดที่มีปัญหาไปก่อน พอเอามาต่อกับเม็ดที่เกินมานี่คงต่อกันได้พอดีเป๊ะ

เลยมาขำตัวเอง เออ ตูหนอ เป็นเพราะลูกค้าไม่มี จึงมีเวลานั่งเพ้อเจ้อได้ตั้งนาน :D

Friday, July 08, 2005

แย่แล้ว

ทำน้ำหนักลงไปเหลือ ๖๕ ได้ไม่ถึงอาทิตย์ วันนี้ตบะแตก แดกแหลก -_-" แง๊ (เมื่อเช้าก็ไม่ได้ sit-up ด้วย) ฮือๆ หงิง หงิง หงิง ...

Tuesday, July 05, 2005

ปีไหน ?



วันอังคารที่ ๕ แล้ววันจันทร์มันจะวันที่ ๑๐ ได้ไง (วะ?)

Monday, July 04, 2005

๖๕ แล้วคร๊าบ

๖๕ แล้ว ๖๕ แล้ว เย้ เย้ เย้ ...

เมื่อเช้าชั่งน้ำหนัก เหลือ ๖๕ อย่างที่ตั้งใจแล้วครับ เป็นน้ำหนักชั่งก่อนอึด้วยนะ ดีใจจัง เย้ เย้ เย้ ...

(เหลืออีกนิดๆ ก็จะ ๖๕ พอดีเป๊ะ) :D

Sunday, July 03, 2005

ซุ่มซ่าม

ลูกค้าบ่น แนะนำ ให้ความเห็นว่า ท้ายๆ ร้านมีแสงสว่างไม่พอ บ่นกันมานานแล้ว แก้ปัญหาไปบางอย่างแล้ว แต่แสงก็ยังไม่พออยู่ดี (เอาฟิวเจอร์บอร์ดออก เพื่อเปิดให้แสงเข้าทางอิฐแก้วด้านหลังลูกค้า)

เมื่อวานตัดสินใจซื้อไฟหลอดยาวแบบประหยัดพลังงาน ชนิดมีอุปกรณ์มาให้ครบชุด มาใช้ที่ร้าน (ที่จริงมันเป็นชุดสำหรับใส่สังฆทานนะ มีคำถวายสังฆทานพร้อมที่ข้างกล่องเลย) แต่พอเปิดกล่องออกมา ปรากฏว่ามันไม่มีปลั๊กมาให้ มีแต่สายไฟโผล่ออกมาน้อยๆ กับมีลูกเต๋าต่อสายให้หนึ่งอัน

เช้านี้กลับบ้าน ไปไถสายไฟ ปลั๊กตัวผู้ และสวิทช์เปิดปิดไฟจากคุณพ่อหนึ่งชุด พร้อมกับขอยืมสว่านมาด้วย (พักนี้ไถของจากคุณพ่อบ่อยแฮะ อาทิตย์ก่อนก็พึ่งไปตบชั้นเหล็กฉากมาอันนึง แต่เอาชั้นเหล็กฉากของที่ร้านไปแลก) :P

ช่วงบ่าย ฝนทำท่าจะตก ฟ้ามืดครื้มทมึนอยู่นาน ลูกค้าทยอยออกจนเหลือคนเดียว เลยคิดว่า เอาวะ ติดตั้งหลอดไฟเลยละกัน เอารางหลอดไฟมาวัด เอาระดับน้ำมาจับ เอาดินสอทำตำหนิบริเวณที่จะเจาะ แล้วก็ลุย .. ทำยังไม่เสร็จดี ลูกค้าคนสุดท้ายก็เลิกใช้งานออกจากร้านไป

เหลือเพียงตัวเรากับเจ้าหลอดไฟ เลยเร่งทำเป็นการใหญ่ จนงานลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย ทีนี้ไอ้ตอนที่จะลงจากโต๊ะ ก็ก้าวขาขวาลงมาเหยียบเก้าอี้ แล้วยกขาซ้ายตามลงมา ปรากฏว่าขากางเกงยีนส์ข้างซ้ายดันไปติดกับมุมพนักพิงเก้าอี้ตัวนั้น ทำอะไรไม่ถูกเลย ยกขาซ้ายขึ้นก็ติดแง่ง จะเอาขาซ้ายลงก็ติด มันเลยคาๆ อยู่กลางอากาศ ยงโย่ยงหยกอยู่แป๊บนึงเก้าอี้ก็ล้มลงฟาดกับพื้นกระเบื้อง เสียงดังสนั่น แต่เราไม่เป็นอะไร สามารถลงมาได้อย่างสวยงาม (น่าจะได้แต้มเฉลี่ยจากกรรมการ ๘.๗ ขึ้นไปนะ) ที่ลงมาได้อย่างสวยงามเพราะพยายามมีสติอยู่ตลอด

นั่นเป็นความซวยแรกที่เข้ามา หลังจากที่สังหรณ์ใจอยู่เหมือนกันว่าตอนเช้า ตื่นมาปุ๊บ ตาขวาเขม่น อาบน้ำ ตาขวาเขม่น กินข้าวตาขวาเขม่น แต่ไม่นึกว่าจะเกิดอุบัติเหตุไง

ใจหายใจคว่ำอยู่แป๊บนึง ก็เดินเอาเครื่องมือมาเก็บลงกล่อง จังหวะย่อตัวลงนั่งแขนขวาก็ไปฟาดถูกพนักพิงเก้าอี้เต็มๆ หนึ่งที นี่ก็เสียงดังสนั่นลั่นร้านอีกเหมือนกัน แต่เป็นเสียงร้องของเราเอง (ดีที่ไมมีลูกค้าอยู่ ไม่งั้นคงอายโคตรๆ)

ซวยไปสองคิดว่าโชคร้ายคงหมดไปแล้ว ทำงานเสร็จแล้วก็ออกไปล้างมือ เดินผ่านรั้วเหล็กอันเตี้ย ที่เคยมีหมาวิ่งมาชนแล้วติดแหง่กอยู่คราวก่อน ตัวเราเองเสือกก้าวขาไม่ข้าม ขาขวาเข้าไปติดในลูกกรง เท่านั้นไม่พอ จังหวะยกขาซ้ายโดยหวังว่าจะให้มันข้ามไปก่อน แล้วค่อยยกขาขวาออกมาจากรั้วอันนั้น แต่แทนที่มันจะเป็นอย่างจินตนาการ เราก็ดันเอาขาซ้ายเข้าไปติดช่องข้างๆ อีกขานึงด้วย ก็เลยคมำหัวเสียบไปข้างหน้า โชคดีที่ทรงตัวทัน เอาขาออกจากลูกกรงแล้วเชิดหน้าเดินตรงต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (งานนี้มีอายเล็กน้อย เพราะมีพยานในเหตุการณ์สองคน) -_-"

เสร็จเรื่องสิ้นราว ทำตัวซุ่มซ่ามสามเหตุการณ์ซ้อนๆ กัน ตอนเย็นๆ เริ่มมีลูกค้ามาใช้บริการ เราก็เอาป้ายเวลาไปตั้ง พอลูกค้าใช้งานเสร็จก็เอาป้ายมาเก็บตามปกติ ป้ายที่ว่าก็เป็นกล่องพลาสติกสีฟ้า ของแป๊ปซี่ ที่มีหมายเลขวางไว้ตามโต๊ะอาหารน่ะ แต่ว่าวันนี้ไม่รู้จะโง่อะไรหนักหนา เดินไปเต้นไป (แบบว่ายังไม่หายซ่า) กล่องป้ายก็ไปเกี่ยวกระเป๋ากางเกงยีนส์ เลยหลุดมือตกลงกระทบพื้น พลาสติกกรอบๆ แข็งๆ กลวงๆ ตกลงกระทบพื้นกระเบื้อง และกระดอนไปมาหลายตลบ เสียงมันก็ดังนะสิ ลูกค้ากำลังใช้งานอยู่สามคนตกใจหมดเลย ต้องรีบขอโทษเป็นการใหญ่ ...

เล่าความซุ่มซ่ามของตัวเองวันนี้ให้แฟนฟัง แฟนก็แซวว่า

"แหมๆ รีบบอกว่าซุ่มซ่ามใหญ่เลยนะ จะบอกว่าตัวเองหล่อละสิ"
"อ้าวทำไมอะ?"
"ก็คนหล่อซุ่มซ่ามไง"

เอาวะจบแบบ Happy Ending และ ผมหล่อครับ :D

Friday, July 01, 2005

เรียกพี่ได้ไหม

เสาร์ที่ผ่านมา (๒๕ มิ.ย. ๔๘) เด็กแถวร้านคนหนึ่งพาเพื่อนที่เป็นเด็กแถวอื่นมาเล่นที่ร้านอีกสองคน เด็กหน้าใหม่สองคนนี้เป็นพี่น้องกัน

เด็กแถวร้านคนที่พามา เมื่อเดินเข้ามาในร้านก็ยกมือไหว้ "พี่หน่อย สวัสดีครับ" ส่วนเด็กแถวอื่นก็ยกมือไหว้ "สวัสดีครับ" เช่นกัน เราก็รับไหว้แล้วเปิดเครื่องให้ใช้

ทั้งหมดใช้งานไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงเล็กๆ เบาๆ ของเด็กหน้าใหม่ที่เป็นคนน้องดังขึ้นมาว่า "หัวหน้าครับ หัวหน้าครับ" เราก็นึกว่าเด็กน้อยกำลังเรียกเจ้าคนที่พามา ยังนึกในใจว่า แหมไอ้หมอนี่ได้เป็นหัวหน้าแล้วเว้ย แถมได้รับการเรียกอย่างสุภาพซะด้วย เลยไม่ได้หันไปมอง .. อีกสักพักก็ได้ยินเสียงเดิมอีกว่า "หัวหน้าครับ หัวหน้าครับ" คราวนี้ชักเอะใจว่าทำไมเจ้าเด็กที่พาน้องเขาเข้ามาจึงไม่เดินไปดูแลสักที จึงหันไปทางต้นเสียง และได้รู้ความจริงว่า น้องเขากำลังเรียกเรา (กวักมือเล็กๆ อยู่หยอยๆ อีกต่างหาก แต่โดนเจ้าคนพี่นั่งบังเกือบมิด) ก็เลยเดินเข้าไปหา เพื่อดูว่าเขามีปัญหาอะไร จะได้ช่วยแก้ไข

พอเดินไปถึง แล้วโน้มตัวลงไปฟังเขาใกล้ๆ จึงได้ยินน้องเขาพูดอย่างชัดเจนว่า "คุณน้าครับ คุณน้าครับ ช่วยดูไอ้นี่ให้ผมหน่อย มันเล่นเกมไม่ได้"

-_-" หนอยแน่ะเด็กคนอื่นๆ แถวนี้เรียกเราว่าพี่กันทั้งนั้น ไอ้หมอนี่เป็นเด็กต่างถิ่นพึ่งเข้ามาแท้ๆ ดันมาเรียกเราว่าน้า ... เสีย self จริงๆ

(หมายเหตุ ที่ได้ยินน้องเขาเรียกว่า หัวหน้าครับ ในตอนแรก เป็นเพราะเสียงในร้านมันดัง ไม่ใช่เพราะหูเริ่มแย่ เช่นอาการของคนแก่ทั่วไปหรอกนะ จะบอกให้)