.comment-link {margin-left:.6em;}

Noi's life & thoughts

Monday, May 31, 2004

รายการอาหารแนะนำวันนี้

ลองดู .. ยำยำจัมโบ้ รสหมูสับ ใส่เครื่องปรุงให้ครบ (เครื่องปรุงที่ผสมผงชูรสไม่ต้องใส่หมด เหลือไว้นิดหนึ่ง ประมาณหนึ่งในห้าของซอง แล้วทิ้งไปเลย) ลวกน้ำเดือด ๓ นาทีเป๊ะ เปิดจานที่ครอบถ้วยยำยำออก แล้วใส่สาหร่ายทะเลแห้งลงไปสองแผ่น (เตรียมไว้อีกสองแผ่น เอาไว้เติมตอนกินหมดไปครึ่งถ้วย)

ผมลองแล้ว และเพื่อนผมลองแล้ว อร่อย :)

Sunday, May 30, 2004

FAQ (อีกข้อ) อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน สายตาไม่เสียเหรอ?

คำถามที่ว่า "อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน สายตาไม่เสียเหรอ?" นี้นับเป็นคำถามที่มีค่าความถี่เฉลี่ยสามครั้งต่อปี แต่ปีนี้พึ่งผ่านมายังไม่ถึงครึ่งปี ผมถูกถามไปแล้วสามครั้ง !!

ผมใช้คอมพิวเตอร์มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ หรือ ๒๕๓๓ นี่แหละ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาด้านสายตาจนต้องใส่แว่น (เคยพยายามใส่แว่นอยู่บ้าง เพราะว่าอยากเท่ ไม่เกี่ยวกับปัญหาสายตา) อาจจะเป็นเพราะพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของผมบางประการซึ่งไปตรงกับเมลฟอร์เวิร์ดฉบับหนึ่งที่ผมได้รับมา เรื่องเกี่ยวกับการรักษาสายตา (ทั่วไป) ว่าทำอย่างไรให้มีสายตาดีไม่ต้องใส่แว่น

พฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของผมก็คือ
๑. ผมไม่เพ่งไปบนหน้าจอ
๒. ผมไม่มองหน้าจอนาน (ยกเว้นตอนดูหนัง)
๓. ผมไม่เล่นเกมส์ที่มีภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ
๔. ผมมักจะเหม่อมองออกไปนอกร้าน มองแบบไม่มีจุดหมาย ทำให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลาย
๕. ผมไม่นั่งใกล้จอจนเกินไป
๖. เวลาที่ผมเริ่มรู้สึกปวดตาผมจะพักโดยการใช้อุ้งมือครอบดวงตาทั้งสองข้างเอาไว้สักพัก
อาจจะมีอย่างอื่นอีก แต่ตอนนี้นึกไม่ออก

และเท่าที่ผมสังเกต ผมว่าพรรคพวกที่ผมรู้จักที่อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์ เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว คนที่ใส่แว่นมีน้อยกว่าคนที่ไม่ใส่แว่นซะอีก (เอ๊ะ Linus เขาใส่แว่นก่อนหรือหลังเข้ามายุ่งกะคอมพิวเตอร์แล้วนะ?)

====
เมื่อเช้าตื่นมาก่อน ๘ นาฬิกาเล็กน้อย ... รู้สึกสดชื่นมาก แต่ยังไม่ถึงเวลานาฬิกาปลุกทำงาน เลยนอนต่อละกัน ห้านาทีต่อมา นาฬิกาปลุกดัง .. กดปิด แล้วตั้งใหม่ ให้มันปลุกตอน ๘.๓๐ นอนต่อ ... ครึ่งชั่วโมงต่อมา นาฬิกาดังอีก ทีนี้ปิดเลย ... แล้วนอนต่อ ตื่นมา เก้าโมงครึ่ง สายแล้ว ... ไม่รู้สึกสดชื่นเหมือนตอนแรกด้วย แต่คิดว่าถ้าไม่ได้นอนต่อ บ่ายวันนี้คงน๊อคไปแล้วหลายรอบ ... เพราะเคยเจอความสดชื่นแบบนี้หลอกมาแล้ว สดชื่นได้ถึงแค่บ่ายสอง ... ช่วงเวลาที่เหลือของวัน ต้องแอบลูกค้านอนตายทุกทีที่มีโอกาส

====
วันนี้ก็ยังไม่ได้ทำเอกสารต่อ เพราะว่ามีลูกค้าเต็มร้านทั้งวัน (เย้) ถ้าหากว่ามีลูกค้าตรึมแบบนี้ทุกวัน ผมยอมอดนอนตอนใกล้ๆ วันงานเพื่อทำเอกสารเลยเอ้า (สาธุ)

Saturday, May 29, 2004

โอมจงจำ ต้องทำอะไรบ้าง อย่าลืม ... เพี้ยง

เมื่อวานคุณกำธร ติดต่อมาจะให้ไปช่วยเป็นวิทยากรเกี่ยวกับโปรแกรม OfficeTLE 1.1.0 บน Linux TLE 5.5 ในงาน Linux Expo. เดือนหน้า ... เลยว่าจะทำเอกสารประกอบการบรรยาย เพราะเนื้อหามันเยอะ ก็กำลังนั่งจับภาพหน้าจอได้สิบเจ็ดภาพ พอดีมีลูกค้ามาให้พิมพ์งาน เลยหยุดไว้ก่อน

วันนี้พิมพ์งานเสร็จ ก็ลืมทำเอกสารประกอบการอธิบายต่อ มั่วแต่นั่งเล่นเกมส์ กับเลี้ยงมังกรใน neopets พอมานึกได้ก็ค่ำแล้ว เลยได้แค่เอาภาพที่จับหน้าจอขึ้นมา crop นิดหน่อย

blog วันนี้บันทึกไว้ว่า จงอย่าลืมทำเอกสาร เดี๋ยวจะไม่ทันวันงาน แล้วต้องอดหลับอดนอนอีก ...

Pay it forward

นอนหลับไม่สนิทมาสามคืนติดกันแล้ว ตอนแรกไม่แน่ใจว่าอะไรกันแน่ที่กวนจิตใจทำให้กังวล

คืนนี้เลยตั้งใจว่าจะทำตัวเองให้เพลียหนักเข้าไปอีกเพราะหวังว่าจะหลับให้สนิทได้ง่ายขึ้น และบวกกับมีความเหงาเกิดขึ้นเมื่อตอนค่ำด้วย เลยว่าจะนั่งดู VCD แล้วก็หยิบได้เรื่อง Pay it forward เพราะว่าเพื่อนพึ่งเอามาคืนเมื่อวานนี้เลยอยู่ใกล้มือ

เมื่อดูจบ ก็ได้ค้นพบว่าอะไรกันที่ขุ่นๆ อยู่ในใจ ทำให้นอนหลับไม่สนิท ... มันคือปัญหาเดิมๆ เรื่องของที่ร้าน อนาคตว่าจะทำอย่างไรต่อไป ความท้อถอยที่เริ่มกลับมาเยี่ยมเยือนกันอีกครั้ง ความคิดหรือทัศนคติต่อโลกที่ขุ่นมัวไปชั่วขณะ อันเกี่ยวเนื่องกับข่าวต่างๆ ที่ได้รับเข้ามา ... แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้ว

Linus กล่าวไว้ในหนังสือ Just for fun ว่า ชีวิตคนแบ่งออกเป็นสามสถานะ หรือสามช่วงชีวิต คือ เอาตัวให้รอด, สังคม และเพื่อความบันเทิง

ถ้านำเรื่องสองเรื่องข้างต้นมารวมกัน ก็อาจจะกล่าวได้ว่า ชีวิตมีสามช่วงคือ เอาตัวให้รอด, สังคม และ Pay it forward คือหมายความว่าถ้าทำได้อย่างนี้ โลกเราคงจะน่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีก ...

ชีวิตต้องมีความหวัง ... ตอนนี้อยากฟังเพลง Imagin ของ จอห์น เลนอน จัง

Friday, May 28, 2004

Linux TLE Live CD upgrade Flash Plugin

เย็นนี้ผมเปิดเครื่องที่เป็น TLE Live CD ขึ้นมา เพื่อปรับแต่งเตรียมไว้เผื่อว่าจะมีลูกค้ามาใช้งาน สิ่งแรกที่ผมทำเป็นประจำ คือการติดตั้ง flash player plugin ให้กับ browser โดยการดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Flash Plugin Installer บน desktop แต่เย็นนี้ผมติดตั้ง flash plugin ไม่ได้เหมือนทุกครั้ง ลองอยู่หลายที และได้สังเกตดูว่า script ที่สั่งให้ติดตั้งนั้น ไปดาวน์โหลด ตัวติดตั้ง flash มาจากไหน

เมื่อทราบ url แล้วผมจึงได้ใช้ web browser เข้าไปตาม url นั้น เพื่อทดสอบว่า server ของ macro media ล่มหรือเปล่า แต่สิ่งที่ผมพบก็คือ เขามีการเปลี่ยนชื่อ package เดิม ที่เป็น flash 6 ไปเป็นชื่ออื่น และมีการใส่ flash 7 เพิ่มเข้าไปใหม่

ดังนั้นผมจึงใช้คำสั่ง #vim /home/tleuser/bin/install_flashplugin.sh เข้าไปแก้ไขค่าตรงที่ระบุว่า install_flash_player_6_linux.tar.gz ทั้งหมดให้เป็น install_flash_player_7_linux.tar.gz แล้วทำการสั่งให้ติดตั้ง plugin ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก็เรียบร้อย

ทีนี้ผม copy เจ้าไฟล์ที่ต้องใช้ทั้งสองตัว คือ .mozilla/plubins/flashplayer.xpt และ .mozilla/plugins/libflashplayer.so ไว้ที่อื่นต่างหากแล้ว เพราะไม่อยากแก้ script ทุกครั้งที่เปิดเครื่องขึ้นมาใหม่

====
ผมไม่แน่ใจว่าปัญหาของผมกับเจ้า Opera 7.5 นี่เกิดจากอะไรกันแน่ คือถ้าในวันใดเปิด Opera แล้วไม่ปิดมันลงไปเลย มันจะทำงานได้ดีมาก ไม่มีอาการโรควูบเกิดขึ้น (คือ อยู่ๆ โปรแกรมก็ปิดตัวเองลงไปโดยไม่ได้สั่ง) แต่ถ้าเมื่อไหร่เปิด-ปิด Opera บ่อยๆ ผมจะมีปัญหาว่ามันเกิดโรควูบ

ขณะนี่ผมทดสอบโดยการเปิด Opera ข้ามวัน (สามสิบกว่าชั่วโมงแล้ว) มันก็ยังทำงานได้ดีมาก

สิ่งที่ผมสงสัยก็คือ ปัญหานี้เกิดจากการที่ผมลง kde 3.2 แล้วมันไม่สมบูรณ์ในตอนแรก หรือ เป็นเพราะผมทำการ install Opera 7.5 ทับของเดิมคือ 7.23 จึงมีปัญหาแบบนี้ได้ (หรือเป็นเพราะ Opera มันน้อยใจที่ปิดมันลงไป มันเลยงอน)

====
น้ำมูกลดลงอีก แต่ก็ยังไม่หมด สั่งน้ำมูกทีไร ต้องคอยลุ้นทุกทีว่าจะมีสมองติดออกมาไหม

Thursday, May 27, 2004

blog = บ่น

เพื่อนผมคนหนึ่ง บอกกับผมหลังจากที่เข้ามาอ่าน blog นี้ว่า "blog ของเธอเหมือนการบ่นกับตัวเอง" อืม ... ผมเลยคิดว่า คำจำกัดความของคำว่า blog = บ่น ละกัน :)

====
วันนี้ไม่มีเรื่องบ่น น้ำมูกลดลงแล้ว แต่ยังสั่งน้ำมูกได้มันสะใจอยู่ดี (ไม่มีสมองหลุดออกมาด้วย)

====
ง่วงแล้วอะ ... (ไม่ได้บ่นนะ แฮะๆ)

Wednesday, May 26, 2004

ผลการทดสอบการใช้ irc ด้วย Gaim (บน TLE 5.5 Samila)

เมื่อคืนวานได้ทดสอบใช้ irc ด้วย Gaim 0.77 ของ TLE 5.5 โดยต่อไปที่ irc.freenode.net กับ irc.webmaster.com และได้เพิ่มการปรับแต่งให้ encoding เป็น tis-620 ก่อนทำการเชื่อมต่อ ก็สามารถใช้งานได้ดี แต่ว่ามันจะไม่แสดงว่าใครมีสิทธิ์อะไรอยู่ในห้อง ไม่เหมือนโปรแกรม chat อื่นๆ เช่น pirch หรือ xchat ที่จะแสดงเป็นสัญลักษณ์ + @ หรือ เป็นจุดสีเหลือง สีเขียว ให้เราทราบว่าใครมีสิทธิ์ระดับไหนอยู่ในห้องนั้นๆ

ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งก็คือ เรื่องของการปรับแต่งคำสั่ง เช่น Join ใน pirch และใน xchat สามารถปรับแต่งให้ไม่ต้องพิมพ์สัญลักษณ์ # นำหน้าชื่อห้องได้ แต่ Gaim ไม่มีที่ให้เข้าไปปรับแต่ง จึงต้องพิมพ์คำสั่งเต็มๆ เป็น /join #ชื่อห้อง

สิ่งที่ Gaim ไม่มีอีกอย่างก็คือ tool bar หรือ format bar ที่เราจะสามารถสั่งให้ใส่สีตัวอักษร หรือไฮไลต์ข้อความได้ (และ Gaim ก็ไม่แสดงด้วยว่าข้อความไหนที่ถูกไฮไลต์)

แต่มีส่ิงหนึ่งที่ผมชอบใจ Gaim คือเมื่อเราคลิ๊กที่ link มันจะไปเปิด browser ที่เราตั้งเป็น default ให้เลย ถ้าให้เทียบระหว่างการใช้ irc ด้วย Gaim กับ Xchat ผมให้คะแนน Xchat มากกว่า เพราะจากประสบการณ์ที่ผมพบ ลูกค้าที่เคยใช้ pirch มาก่อน มักจะต้องการใช้โปรแกรมที่สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับโปรแกรมที่เขาเคยใช้ เช่น ต้องการไฮไลท์ข้อความ ต้องการใส่ script ต่างๆ เข้าไปได้ เป็นต้น

ผมคิดว่า ถ้าต้องการจะให้ลูกค้าใช้ Gaim ในการเชื่อมต่อ irc คงต้องเหนื่อยยิ่งกว่าการที่จะให้ลูกค้าใช้ xchat แทน pirch เสียอีกนะครับ

Tuesday, May 25, 2004

ยังไม่ได้ซื้อวิตามินซีเลย ...

วิตามินซีเม็ดสุดท้ายถูกปลิดชีวิตลงเมื่อเช้านี้ ไว้รอซื้อวิตามินซีขวดใหม่ตอนต้นเดือนดีกว่า แบบว่าตอนนี้หมุนเงินส่วนตัวไม่ค่อยจะคล่องเท่าไหร่ แฮะๆ ... สงสัยว่าจะต้องอดวิตามินซีไปในช่วงระหว่างที่ร่างกายกำลังขาดวิตามิน M (money) ไปพลางๆ ก่อน ... อาทิตย์เดียว ไม่เป็นไร ...

อาการหวัดวันนี้เหมือนเมื่อวานเลย มีน้ำมูก แต่ว่าวันนี้ไม่กล้าสั่งน้ำมูกแรง (มากเท่าเมื่อวาน) เพราะกลัวสมองหลุดออกมาด้วย (ยิ่งมีน้อยๆ อยู่)

====
วันนี้แฟนกลับบ้านแล้ว แวะมาหาเราที่ร้านแล้วมีขนมมาฝากด้วย เย้ ดีใจจัง :) แฟนเราน่ารัก น่ารัก น่ารักที่สุดเลย

====
ลูกค้าที่ร้านยังไม่มากเหมือนเดิม เช้าถึงบ่ายเงียบ เย็นๆ มีลูกค้าเต็มร้านอยู่ครึ่งชั่วโมง แล้วก็เงียบอีกครั้ง ... คงต้องรออีกสักระยะก่อนถึงจะเริ่มมีงานพิมพ์เข้ามาให้ทำบ้าง (เส้นเลือดหลักของร้านเลยนะนั่น) ก็ดีเหมือนกัน จะได้หายป่วยก่อน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ค่อยอยากจะรับงานพิมพ์เท่าไหร่ เพราะต้องทำงานไปหลับไปแล้วอาจจะมีช่วงเบลอทำให้งานออกมาไม่สมบูรณ์

====
พี่ nUm โทรมาจากสุโขทัย ฝากให้ช่วยลอง irc บน Gaim ว่าได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง (แล้วฝากให้ช่วยลองอะไรอีกหว่า จำไม่ได้แล้ว ขอโทษครับพี่ แฮะๆ เดี๋ยวถ้าไม่ลืม จะลอง Gaim ให้นะครับ ...)

====
ไปกินข้าวต่อดีกว่า ... ข้าวกะเพราหมู เผ็ดๆ ...

Monday, May 24, 2004

สั่งน้ำมูกซะปวดหัว ...

เมื่อคืนก่อนเข้านอนทา vicks ที่หน้าอก คอ และพยายามอย่างยิ่งที่จะทาหลังให้ได้ด้วย ก็ทาได้นิดหน่อย เช้านี้อาการดีขึ้นมาก ตื่นมา ไม่มีน้ำมูกแล้ว แต่พอกลับมาเปิดร้าน ต้องอยู่ในห้องปรับอากาศแล้วน้ำมูกก็กลับมาทำให้หายใจไม่สะดวกอีกครั้ง แถมเป็นน้ำมูกดื้อ ไม่ค่อยยอมออกมาแต่โดยดี สั่งแล้วสั่งอีก .. ตกเย็นมาเลยปวดหัว เพราะสั่งน้ำมูกแรงไป และบ่อยไป ...

เรื่องตลกก็คือ วันแรกๆ ที่สั่งน้ำมูกนั้น เราสั่งน้ำมูกข้างขวาข้างเดียว แต่ดันมีเลือดออกจากจมูกข้างซ้าย จนกระทั่งมีน้ำมูกทั้งสองข้าง ก็ไม่มีเลือดออก พอมาวันนี้ ปรากฏว่าเลือดปนออกมากับน้ำมูกทั้งสองข้างเลย ...

====
วันนี้ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสาม มีลูกค้าคนเดียว .. พอเย็นหน่อย มีลูกค้าเต็มร้านแป๊บนึง แล้วฝนก็ตก พอฝนหยุด ลูกค้าก็หมดร้าน แล้วก็พึ่งจะมีลูกค้าอีกหนึ่งคน ... วันนี้คงเป็นวันสำหรับการพักผ่อนอีกวันนึงละมั๊ง :)

====
ออกไปซื้อบะหมี่น้ำร้อนๆ มากินแล้วรู้สึกค่อยยังชั่วจากอาการปวดหัวหน่อย หายใจคล่องขึ้น นี่ก็ทา vicks จนจะหมดตลับอยู่แล้ว วิตามินซีก็เหลือเม็ดสุดท้าย พรุ่งนี้คงต้องไปซื้อขวดใหม่

====
วันนี้แฟนไม่กลับบ้าน เลยไม่ได้แวะมาหาที่ร้าน คิดถึงจัง ...

Sunday, May 23, 2004

เฝ้าร้านทั้งวัน ไม่เบื่อเหรอ?

หากผมจะทำเอกสาร faq (frequency asked questions) ส่วนตัวขึ้นมาสักอันหนึ่งแล้ว คำถามที่ว่า "เฝ้าร้านทั้งวันอย่างนี้ ไม่เบื่อบ้างเหรอ" ก็คงต้องถูกบรรจุอยู่ใน faq ที่ว่าด้วยเช่นกัน

คำตอบของผมก็คือ ไม่เบื่อครับ

ผมคิดว่าชีวิตคนเรา จะมีความสุขหรือไม่นั้นอยู่ที่ว่าเราจะสามารถค้นหาสิ่งที่เป็นความสุขในชีวิตของเราจริงๆ พบหรือเปล่า คำจำกัดความของคำว่า ความสุข ในแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน บางคนมีความสุขเมื่อได้สะสมจนมีเงินทองทรัพย์สมบัติมากมาย บางคนมีความสุขที่ได้ท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ บางคนมีความสุขที่ได้ทำงาน ฯลฯ

สำหรับผม ผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่ร้าน ผมรู้สึกสนุกที่ได้คอยช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับลูกค้า ดังประโยคหนึ่งที่ผมจำมา ซึ่งก็จำไม่ได้แล้วว่าไปจำมาจากไหน ประโยคที่ว่าก็คือ "As I enjoy my job, so everyday is my holiday." ...

แล้วคุณหล่ะครับ ค้นหาความสุขแท้ๆ ในชีวิตของตัวเองพบหรือยัง?

อารมณ์สนุกสนาน ...

รักคนอ่าน .. อิอิ :)

Saturday, May 22, 2004

อาการหนัก ทั้งกิน ทั้งอม ทั้งทา

ตื่นมาวันนี้ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ เหลือมึนหัวเล็กน้อย เสียงบู้บี้บุบบิบยิ่งกว่าเมื่อวาน และรู้สึกได้ว่าน้ำมูกเริ่มไหลลงคอ ซึ่งจะทำให้เริ่มไอแน่นอน (เมื่อคืนเสมหะเยอะมาก)

เช้านี้หลังจากซัดยาแผงสีเขียวไปสองเม็ดเพื่อลดน้ำมูก แล้วก็เดินไปซื้อ vicks vaporub มายัดรูจมูก ทาหน้าอกและคอ (ทาหลังไม่ถึง ไม่มีใครมาช่วยทาให้ อ้อนๆ) อ้อ จิ๊กยาอมที่ขายอยู่ที่บ้านมาอมด้วย สรุปว่าใช้ยาหลายอย่าง หลายขนาน เพื่อไม่ให้มันไอ แต่มันก็ยังมีไออยู่บ้าง ... เฮ้อ

====
blog อันที่หายไป เป็นการตอบคำถามอาจารย์ kitty_in_th ว่าลูกค้าเข้ามาใช้โปรแกรมอะไรบ้างในร้านที่เป็นเน็ตล้วนๆ แถมเป็น Linux ล้วนๆ อีกต่างหาก

จากสถิติที่ผมเก็บไว้ตั้งแต่ปลายปี ๔๔ (เริ่มใช้ Linux ในร้าน) ก็จะเป็นพวก irc -> web browsers -> Office -> MSN

แต่ปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงเป็น web browser + MSN (มีปริมาณพอๆ กัน) -> Office -> irc

เดิมจะมีลูกค้าต่างชาติใช้ MSN มากกว่าลูกค้าชาวไทย และผู้ใช้ MSN มีเป็นจำนวนประมาณ ๓๐% ของลูกค้าทั้งหมด

ปัจจุบัน ลูกค้าคนไทยใช้ MSN มากกว่าลูกค้าต่างชาติ และคิดเป็นประมาณ ๗๐% ของลูกค้าทั้งหมด น่ากลัวนะครับ

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งานนั้น เกิดจากกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนไป ลูกค้าประจำเก่าๆ ที่ใช้ irc ผ่านโปรแกรม pirch เท่านั้น ไม่ยอมใช้โปรแกรม xchat ก็ไปใช้บริการร้านอื่น (และเดี๋ยวนี้มีเครื่องเป็นของตนเองแล้ว) แต่ผมก็ได้พยายามสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ขึ้นมาตลอดเวลา และสร้างความสัมพันธ์ลูกค้าเดิมให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำด้วย

สรุปว่าลูกค้าส่วนใหญ่มาเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ร้านผม โดยใช้เพื่อการติดต่อสื่อสาร และใช้ในการค้นคว้าหาความรู้ อาจจะเพื่อทำการบ้าน ทำรายงาน หรือเพื่องานอดิเรกยามว่างของตัวเอง ซึ่งก็ตรงกับวัตถุประสงค์ในการเปิดร้านของผม ที่ต้องการให้คนไทยได้ใช้อินเตอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยผมเน้นที่จะสอนให้พวกเขาใช้ด้วยตัวเองได้ ทำด้วยตัวเองเป็น มากกว่าที่จะรับจ้างทำให้เลย

====
เห็นใน blog ของอาจารย์ kitty_in_th บอกว่า video lan for TLE เสร็จแล้ว แต่ผมยัง apt-get ไม่ได้เลยครับ ^_^' เศร้า

====
โพส blog อันนี้แล้ว อันเก่าจะหายไปอีกไหมเนี่ยะ ... ลุ้นๆ

Friday, May 21, 2004

อ้าว หายไปไหนหนึ่งอันหว่า??

งง เมื่อวานโพสไปสองอัน ทำไมตอนนี้มันเหลืออันเดียวแล้วหว่า? งงจริงๆ

ฝนหลั่งลงมาจากฟากฟ้า

ฝนตกตั้งแต่เมื่อคืน ไม่หนักมาก แต่ก็ไม่ยอมหยุด .. เมื่อเช้าไปกินข้าวขาหมูเจ้าประจำที่ตลาด ได้ยินพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบ่นกันระงมว่าขายของไม่ค่อยได้ เพราะไม่ค่อยมีลูกค้าออกมาเดินซื้อของ ทั้งๆ ที่เป็นวันศุกร์แท้ๆ คือปกติแล้ววันศุกร์จะเป็นวันที่มีลูกค้าพวกข้าราชการออกมาซื้อข้าวของตุนไว้สำหรับเสาร์-อาทิตย์มากเป็นพิเศษ

โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็ไม่ชอบฝน หมายถึงถ้าอยู่เมืองแบบนี้ ฝนทำให้อะไรหลายๆ อย่างไม่สะดวกสบายนัก การคมนาคมก็ไม่สะดวก เสื้อผ้าก็ไม่แห้งและเหม็นอับ ฯลฯ แต่ฝนในเมืองหลวงก็ยังคงมีข้อดีอยู่บ้าง ...

สมัยที่ผมเรียน Event Management อยู่ที่ New Zealand พี่ Matt ซึ่งเป็นพี่เขยชาวกีวีของผมอาศัยอยู่ในเมืองไทย และจะคุยกับผมผ่านทาง e-mail บ่อยๆ ทุกครั้งที่กรุงเทพมีฝนตกหนัก เขาจะบอกว่าเขาดีใจมาก เพราะฝนจะช่วยชะล้างมลพิษในอากาศออกไป ทำให้เขาสามารถมองเห็นฟ้าใสได้ในเวลาต่อมา

====
เมื่อวานได้รับข่าวดีจาก Cool Net Club ร้านของพี่ nUm ที่สุโขทัย เป็นร้านอินเตอร์เน็ตล้วนๆ ที่ใช้ Linux Live CD ล้วนๆ ข่าวดีที่ว่าก็คือ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเต็มร้าน :) ผมพลอยดีใจไปกับพี่เขาด้วย นี่เห็นบอกว่าวันหลังจะส่งรูปที่ร้านมาให้ดู (ต้องไปยืมกล้องคนอื่นมาถ่ายก่อน)

ผมรู้จักพี่ nUm จาก pantip.com เคยเข้าไปอ่านความคิดเห็น และอ่านคำตอบที่พี่เขาช่วยตอบคนอื่นๆ แล้วรู้สึกถูกชะตา อยู่มาวันหนึ่งพี่หนุ่มก็มาที่ร้านผม โดยไม่บอกผมก่อนว่าเป็นใคร มาถึงก็มาถามหาเครื่องที่เป็น Linux เพื่อที่จะใช้งาน ตอนนั้นผมก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเขาทราบได้อย่างไร หลังจากใช้งานแล้วจึงได้ทราบว่าเป็นพี่ nUm คนเดียวกับที่ผมรู้จักใน pantip.com นี่เอง

หลังจากนั้นมาเราก็มีการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเรื่อยๆ พี่เขาบอกว่าต้องการจะเปิดร้านอินเตอร์เน็ตด้วย Linux ล้วนๆ ที่จังหวัดสุโขทัย เราจึงมีการปรึกษากันบ่อยๆ จนกระทั่งคุณ ott แห่ง TLWG ได้ทำ Knoppix Thai Live CD ขึ้นมา พี่ nUm จึงเกิดความคิดที่จะเปิดร้านอินเตอร์เน็ตด้วย Linux Live CD เพราะจะสามารถประหยัดค่าฮาร์ดดิสก์ได้อย่างน้อยๆ สองพันบาทต่อเครื่อง และวันนี้พี่ nUm ได้เปิดร้าน Cool Net Club ที่จังหวัดสุโขทัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอให้กิจการของพี่ nUm เจริญรุ่งเรืองต่อไปครับ :)

====
ถ้าพูดถึงชีวิตผมที่ได้เข้ามาเกี่ยวพันกับ Linux และ Open Source คงต้องเอ่ยถึงพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ อีกหลายคน และรวมถึงเว็บ Thai Linux Cafe ของพี่หวังด้วย เอาไว้เล่าวันอื่นๆ แล้วกัน ตอนนี้ยาคงเริ่มจะออกฤทธิ์ อยากจะนอนอีกแล้ว .. อ้อ เกือบลืมข่าวดี ตอนนี้บอร์ดของ Thai Linux Cafe กลับมาใช้งานได้แล้วนะครับ ที่นี่

Thursday, May 20, 2004

เครื่องปรับอากาศผีสิง

เช้านี้ตื่นมาเจ็บคออีกแล้ว อาบน้ำกินข้าว แล้วมากินยาที่ร้าน พอเปิดประตูร้านต้องตกใจว่าเครื่องปรับอากาศมันกำลังทำงานอยู่ ไม่รู้ว่าเปิดมานานเท่าไหร่แล้วด้วย (ฮือๆ ค่าไฟตู ^_^')

รู้สึกมึนๆ อีกแล้ว หลบไปนอนก่อนดีกว่า ...

Wednesday, May 19, 2004

ภาคหายเจ็บคอ แต่เริ่มมีน้ำมูก

ช่วงบ่ายๆ แอบลูกค้าหลับไปหลายยก ตอนหัวค่ำกระแทกยาแผงสีเขียวลงคอไปอีกสองเม็ด ตอนนี้มีน้ำมูกไหลมาอุดตันจมูกข้างขวาแล้ว ต้องนับว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้ไม่แสบจมูกอีกต่อไป

วันหนึ่งๆ ผมต้องอมยาอมหลายอย่าง สลับกันไปมา เพราะยาอมแต่ละชนิดจะแนะนำให้อมแบบทิ้งห่าง สองชั่วโมงต่อเม็ด ตอนนี้ไม่เจ็บคอแล้ว แต่เข้าสู่อาการเป็นหวัดอย่างจริงจังเสียที นั่นคือ มีไข้ อ่อนเพลีย และมีน้ำมูกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

====
ปกติตอนค่ำๆ ผมชอบออกไปยืนพิงประตูกระจกหน้าร้านแล้วเหม่อมองออกไปข้างนอก มองไปรอบๆ แบบไม่มีจุดหมาย (ยกเว้นตอนที่เห็นสาวๆ ขาวๆ แว็บๆ ผ่านตา ก็จะเริ่มมีจุดหมายในการจ้องมองทันที) แต่ตอนนี้ฝนกำลังตกหนักอีกครั้ง ... คงไม่มีสาวๆ ขาวๆ มาเดินผ่านแว๊บๆ ให้ดูเป็นอาหารตา เห็นมีแต่รถขายปลาหมึก(แห้ง)ปิ้งมาจอดหลบฝนอยู่หน้าร้าน

เคยมีอยู่คืนหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังยืนพิงประตูกระจกแล้วเหม่อมองออกไปข้างนอกตามปกติ แล้วก็มีลูกค้าสาวชาวต่างชาติ เข้ามาใช้บริการ เธอเห็นอาการของผมแล้วก็พูดเย้าว่า "Looking for freedom?" .. คืนนั้นผมได้แต่หัวเราะ เพราะนึกคำตอบไม่ทัน ที่จริงแล้วผมควรจะตอบว่า "I've already got my freedom here, because I'm using Linux".

====
ทำไมพี่ไม่ใช้วินโดวส์ ? ลูกค้าคนหนึ่งถามผมในเย็นวันนี้ ผมถามกลับไปว่า แล้วทำไมถึงต้องใช้วินโดวส์ ? เธอก็ย้อนถามผมกลับมาอีกว่า ก็แล้วทำไมพี่ไม่ใช้ .. นี่ถ้าผมไม่ป่วยจนไม่มีเรี่ยวแรงไปต่อล้อต่อเถียง ผมก็คงไม่รีบจบการสนทนาอย่างรวดเร็วว่า "เพราะมันเสถียรกว่า" ห้วนๆ แบบหมดแรง แล้วก็นึกไว้ในใจว่า คราวต่อไปถ้าน้องมาถามตอนพี่ไม่หมดแรง รับรองว่าน้องต้องเจอปาถกฐาว่าด้วยเหตุผล "ทำไมผมจึงเลือกใช้ Linux" อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าห้านาทีแน่นอน

====
ฝนหยุดแล้ว ไปยืนพิงประตูกระจกหน้าร้านแล้วเหม่อมองออกไปเล่นๆ ดีกว่า เผื่อว่าจะมีสาวๆ เดินผ่านมาให้ผ่อนคลายสายตา ;)

ป่วยไข้ ไม่สบาย กินยาแล้วก็ยังไม่หาย

เบื่อกับอาการป่วยของตัวเอง วันนี้รู้สึกว่าเป็นมากกว่าเมื่อวาน ทั้งๆ ที่เริ่มกินยาแล้ว เพราะทำใจแล้วว่าคงไม่ได้ไปบริจาคโลหิตแน่ๆ ยังคงแสบจมูกข้างขวาอยู่ เจ็บคอมากขึ้น ปวดหัวมากขึ้น มีไข้มากขึ้น จึงตัดสินใจใช้ยาที่แรงกว่าพาราฯ นั่นคือเจ้าแผงสีเขียวเพื่อนเก่า (ที่เคยทำเราหลับในแหกโค้งเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว เมื่อหลายปีก่อน)

====
เมื่อเช้าตอนที่อาบน้ำแล้วนึกเล่นๆ เกี่ยวกับการออกเสียงเรียกสิ่งต่างๆ ระหว่างคนไทย กับชาวต่างชาติ เช่น

ไก่ไทยขันว่า เอ๊ก อี้ เอ่ก เอก
ไก่ฝรั่งขันว่า คลอก เค่น ดอก เค่น ดู

คนไทยเรียกแมวให้มาหาว่า เหมียวๆๆ
ฝรั่งเรียกแมวให้มาหาว่า ฟุชชี่ ฟุชชี่ แคท

กบไทยร้อง โอ๊บๆ
กบฝรั่งร้อง ฟร๊อก ฟร๊อก
กบญี่ปุ่นร้อง เคโร๊ะ

แล้วทำไมบางคนจึงมีปัญหากับการออกเสียงและการเขียนคำว่า Linux กันหนักหนา?

ลินุกซ์ ลีนุกซ์ ลินิกซ์ ลินักซ์ ไลนักซ์ ฯลฯ ถ้าจะบอกว่าให้ยึดตามหน่วยงานหนึ่งที่คอยดูแลคำศัพท์และการออกเสียง ผมก็อยากจะบอกว่า ...

สมัยที่ผมเรียนแรกๆ นั้น คำว่า
สัปดาห์ "ท่าน" ให้อ่านว่า สับ-ดา ห้ามออกเสียงว่า สับ-ปะ-ดา เด็ดขาด
ประวัติศาสตร์ "ท่าน" ให้อ่านว่า ประ-หวัด-ติ-สาด ถ้าออกเสียงว่า ประ-หวัด-สาด นั้นเป็นผิด

แต่เดี๋ยวนี้เราก็เห็นว่าเราสามารถออกเสียงได้หมด เพราะ "ท่าน" อนุโลมให้

สรุปว่าอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อย่าตั้งแง่งอนกันเลยก็น่าจะได้มั๊งครับ ปิดประเด็น :)

====
ไปอ่าน Blog ของ คุณ MrChoke เกี่ยวกับ "แนวคิดตะเกียบ" แล้วก็เลยมานึกถึงตัวผมเอง ...

สมัยเด็กผมใช้ตะเกียบได้ไม่ดีนัก ถนัดใช้ช้อนมากกว่า และเมื่อพยายามจับตะเกียบด้วยมือขวาที่ถนัด ก็ใช้ได้ไม่ดี ทั้งยังทำให้ผมใช้ช้อนมือซ้ายได้ไม่ดีอีกด้วย แล้วถ้าจะมาคอยเปลี่ยนเครื่องมือในการกินให้กับเจ้ามือขวา ก็ดูน่าเบื่อและทุลักทุเลพอสมควร ผมจึงเปลี่ยนใหม่ ในเมื่อเราทำได้ดีไม่ได้สักอย่าง ก็เอามือข้างที่ถนัดจับเครื่องมือที่เราถนัดที่สุดก่อน (เพราะอย่างน้อยก็ยังกินได้) แล้วเอามือข้างที่ไม่ถนัด ไปจับเครื่องมือใหม่ และค่อยๆ เรียนรู้ที่จะใช้มันไป

ผลก็คือ ทุกวันนี้ผมถนัดคีบตะเกียบด้วยมือซ้ายมากกว่า แถมพกด้วย ถ้าต้องใช้ช้อนมือซ้ายก็ทำได้ดีพอๆ กับมือขวา ข้อดีก็คือ เวลาไปร่วมวงรับประทานอาหาร ผมไม่ต้องคอยเปลี่ยนมือขวาให้จับช้อนหรือตะเกียบ และถ้าหากต้องไปนั่งติดกับเพื่อนที่จับช้อนมือซ้าย ผมก็สามารถเปลี่ยนให้มือซ้ายไปจับช้อนได้เช่นกัน (มือจะได้ไม่ชนกันเวลากิน) แต่ข้อเสียก็คือ เพื่อนๆ ที่รู้ถึงความสามารถข้อนี้ของผม มักจะไม่ร่วมวงกินข้าวด้วย เพราะจะกินไม่ทันผม ฮ่า ฮ่า ฮ่า ;)

====
ยาแผงสีเขียวคงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว อาการปวดหัวน้อยลง แต่ไข้ยังไม่ลด (วัดจากความรู้สึก) แสบจมูกน้อยลง คงเป็นเพราะเริ่มมีน้ำมูกไหลลงมาหล่อเลี้ยงไม่ให้มันแห้งบ้างแล้ว ไม่แน่อาจจะมีการโพสรอบสองในวันนี้ (กำลังคึก)

Tuesday, May 18, 2004

My very first time !

ตั้งใจอยู่หลายวัน ว่าจะ Blog กับเขาสักที .. จงใจเลือกวันที่ ๑๘ ให้เป็นวันเริ่มต้น เพราะรู้สึกว่าชีวิตจะเกี่ยวข้องกับเลข ๑๘ มาโดยตลอด :)

ที่จริงแล้วผมก็ไม่ค่อยจะชอบเลขนี้เท่าไหร่ เพราะมักจะมีแต่เรื่องที่ไม่ชอบใจหรือทำให้ไม่สบายใจเกิดขึ้นโดยเกี่ยวพันกับเลข ๑๘ อยู่บ่อยๆ แต่คราวนี้อยากจะลองอยู่กับมันอย่างสันติดูบ้าง ลองดูซิว่า ถ้าเราไม่ตั้งข้อรังเกียจมันแต่แรก แล้วมันจะดีกับเราบ้างได้ไหม

ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นคนโรแมนติคประมาณหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะได้ดู The Classic แล้วทำให้ต่อมโรแมนติคทำงาน แต่ก็รู้สึกเหมือนอย่างที่คุณ MAC [^-^]__\|m| แห่ง ZyberStyle เคยบอกไว้ว่า "หลังจากดู The Classic จบแล้วรู้สึกว่ามันไม่อิ่ม ต้องหาหนังแนวนี้มาดูอีกครั้ง เช่น My Sassy Girl, Love Letter ..."

ผมอาจจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีความรู้สึกช้า เพราะดู The Classic จบไปตั้งหลายวันแล้ว แต่อาการเหมือนอย่างที่คุณ MAC [^-^]__\|m| บอกพึ่งจะมาเกิดกับผมเดี๋ยวนี้เอง

====
โรงเรียนเปิดเทอมกันแล้ว แต่ที่ร้านก็ยังไม่คึกคักนัก อาจจะเป็นเพราะพึ่งจะเปิดเทอมได้แค่สองวัน เมื่อสักครู่มีเด็กกลุ่มใหญ่หน้าตาใหม่ๆ มาหยุดยืนมองอยู่หน้าร้าน แล้วก็เดินเลยไป ไม่รู้ว่าต่อไปน้องๆ กลุ่มนั้นจะได้กลายมาเป็นคนคุ้นเคยกันหรือเปล่า ... อย่างเมื่อคืนที่ผ่านมา มีน้องคนหนึ่งมาใช้บริการ แล้วน้องเขาก็แสดงอาการแปลกใจว่าเราใช้ Linux เราเองก็แปลกใจว่าทำไมน้องเขาพึ่งสังเกตเห็น เพราะเราจำหน้าน้องได้ ก็นึกว่าเป็นเด็กรุ่นที่พึ่งจบ ม.๖ เมื่อภาคเรียนที่แล้ว เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น น้องก็ต้องเคยใช้ Linux ที่ร้านเรามาก่อนแน่ๆ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เป็นน้องคนนั้นเป็นรุ่นที่เปิดร้านเป็นปีแรก แล้วได้แวะกลับมาแถวนี้เลยมาใช้บริการอีกครั้ง .. รู้สึกดีใจ เหมือนได้เจอเพื่อนเก่า :)

====
ตอนนี้กำลังป่วย โรคหวัดเหมือนเดิม มีไข้ แสบจมูก เจ็บคอ น่ารำคาญ และที่ทำให้ไม่พอใจอีกอย่างก็คือ ตั้งใจไว้แล้วว่าอีกสามวันข้างหน้าจะไปบริจาคโลหิต อย่างนี้คงต้องอด ต้องเลื่อนออกไปอีกครั้ง

====
ที่จริงก็ยังมีอะไรอีกหลายอย่าง แต่เก็บไว้วันอื่นๆ บ้างแล้วกัน เพราะห่างหายจากการขีดๆ เขียนๆ มาเป็นเวลานานแล้วเหมือนกัน :) แล้วเจอกันใหม่